
ในวิดีโอเรื่อง “การปรับตัวของชุมชนคนทามทำนาหนีน้ำท่วม” ปราณี มรรคนันท์ นักพัฒนาองค์กรพัฒนาเอกชน โครงการทามมูล ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการปรับตัวของ “ชุมชนคนทาม” ในแง่วิถีการทำนาเพื่อให้ชีวิตรอดได้ภายใต้สภาวะที่ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้ว ซึ่งชุมชนคนทามนั้นเกิดจากการรวมตัวกันของชุมชนที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำมูลตอนกลาง รวมกันทั้งสิ้น 260 หมู่บ้าน
เรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องของการเรียนรู้ ซึ่งเกิดขึ้นที่อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ถึงแม้ต้องใช้เวลานานนับปีในการศึกษาวิจัย ทดลอง และเก็บข้อมูล แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คุ้มค่า ถือเป็นรูปธรรมหนึ่งของการปรับตัวเพื่อรับมือกับความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศที่ประสบความสำเร็จ


เรื่องราวการเรียนรู้นี้ตั้งต้นจากการที่ชุมชนคนทามต้องประสบปัญหาน้ำท่วมหนักเมื่อปี พ.ศ. 2565
ย้อนไปในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ปี 2565 ภาวะน้ำท่วมในจังหวัดศรีสะเกษโดยรวมอยู่ในระดับที่สื่อมวลชนบางรายใช้คำว่า “จมบาดาล” โดยในพื้นที่อำเภอราษีไศล น้ำจากแม่น้ำมูลได้รุกเข้าท่วมพื้นที่เกษตรเป็นบริเวณกว้าง และแช่อยู่ยาวนาน
ปกติพื้นที่ของชุมชนคนทามอยู่ใต้เขื่อนราศีไศล มีการทำนา 2 รูปแบบ คือ “นาทาม” ซึ่งหมายถึงนาที่ทำในพื้นที่ราบ และ “นาเทิน” หรือนาที่ทำบนพื้นที่ดอน โดยใช้พันธุ์ข้าวอายุสั้น
แม้ว่าพื้นที่ประสบน้ำท่วมทุกปี แต่ชุมชนก็ยังได้ข้าวไว้บริโภคในครัวเรือนจากนาเทินเป็นหลักและมีรายได้จากการจับปลา แต่สำหรับสถานการณ์ของปี 2565 พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมหนัก นาทุกแปลงล้วนจมน้ำ ทำให้ผลผลิตเสียหาย ไม่สามารถเก็บข้าวไว้บริโภคได้
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวนาในพื้นที่หาแนวทางการรับมือร่วมกัน เพื่อให้มีข้าวบริโภคท่ามกลางวิกฤติน้ำที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากการจัดทำผ้าป่าเมล็ดพันธุ์ ระดมความช่วยเหลือจากเครือข่ายภาคประชาชนและองค์กรพัฒนาเอกชนทั้งหลาย จนกระทั่งได้รับการบริจาคเมล็ดพันธุ์ข้าวมาจำนวนมาก
ต่อมาได้มีการจัดตั้งกองทุนเมล็ดพันธุ์ชุมชนคนทาม โดยมุ่งหวังว่าจะได้ยืนหยัดช่วยเหลือตนเอง ไม่ต้องคอยขอความช่วยเหลือไปเรื่อย ๆ



แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการพยายามตีโจทย์ปัญหาว่าจะเลือกพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมและปลูกอย่างไรเพื่อให้มีข้าวบริโภคตลอดทั้งปี
การทำแปลงทดลองจำนวน 4 แปลงจึงเกิดขึ้น ด้วยการสนับสนุนของมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) ประสาน ดร.บุญรัตน์ จงดี อดีตนักวิจัยข้าวจากกรมการข้าว นักวิชาการข้าวชั้นเซียน ร่วมกับชุมชนทำวิจัยเชิงปฎิบัติการเพื่อศึกษาและเก็บข้อมูลการเจริญเติบโตของพันธุ์ข้าวในการปลูกข้าวแต่ละช่วงเวลา มีการเรียนรู้ในเรื่องความไวแสงของแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งสัมพันธ์กับระยะเวลาการออกดอก จนถึงการเจริญเติบโตสมบูรณ์พร้อมให้เก็บเกี่ยว
ในการร่วมเรียนรู้ผ่านงานวิจัยดังกล่าว มีการเก็บข้อมูล จดบันทึก และแลกเปลี่ยนข้อมูล อย่างเห็นความสำคัญ นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับข้าว ยังมีการทำงานร่วมกับทีมอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมหาสารคามในการเก็บข้อมูลปริมาณน้ำฝน และช่วงเวลาของฤดูกาลในแต่ละปี เช่น ในช่วงปีนี้ฤดูแล้งหรือฝนจะตกในพื้นที่ช่วงใด ภัยแล้งจะมาเร็วหรือมาช้า แล้วนำข้อมูลทั้งหลายมาประกอบการวางแผนปลูกข้าวเพื่อลดความเสี่ยงของการสูญเสียผลผลิตในแต่ละรอบการผลิต


ในการวางแผนการทำนาหนีน้ำท่วม นอกจากจะมีการเลือกพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับพื้นที่และช่วงเวลาแล้ว อีกส่วนที่สำคัญก็คือการกำหนดเวลาเริ่มต้นการทำนาให้ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนที่จะเกิดน้ำท่วม โดยใช้วิธีการในลักษณะย้อนศร นั่นคือ เริ่มจากกำหนดวันเก็บเกี่ยวก่อนที่น้ำจะมา จากนั้นจึงนับเวลาไล่ย้อนมาหาวันดำนาว่าควรจะเป็นวันไหน
ถึงแม้น้ำจะยังคงท่วม แต่ด้วยวิธีดังกล่าวก็ทำให้ ผลผลิตจากการทำนาได้เก็บเกี่ยวก่อนที่จะถูกน้ำท่วมเสียหาย
ชมเรื่องราวนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://youtube.com/watch?v=6_AvkI1MYLM&feature=shared