ในเขตเมืองขอนแก่นปัจจุบันมีศูนย์เรียนรู้สวนผักคนเมืองขอนแก่น ซึ่งได้ริเริ่มการดำเนินงานโดย “เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสาน” มาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2559 แล้ว
แต่หลังจากที่ “ศูนย์การเรียนรู้การจัดการขยะอินทรีย์ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนโนนชัย 1” ภายใต้การนำของ “พรรณา อรรคฮาต” ได้เข้าเป็นสมาชิก “สวนผักคนเมืองภาคอีสาน” ความคิดที่จะพัฒนาศูนย์ดังกล่าวเป็นศูนย์เรียนรู้สวนผักชุมชน บ้านโนนชัย 1 ก็เกิดขึ้น
เมื่อ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการจัดอบรม “ปลูกผักในเมือง” ของชุมชนบ้านโนนชัย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะอินทรีย์ฯ ชุมชนโนนชัย 1 เป็นสถานที่จัดกิจกรรม
กิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ แกนนำของชุมชนได้มีโอกาสไปเข้าร่วมการอบรมเรื่องการปลูกผักในเมืองกับทางเครือข่าย “สวนผักคนเมือง” ภาคอีสาน ที่จังหวัดมหาสารคาม มาแล้ว ด้วยการสนับสนุนจากศูนย์เรียนรู้สวนผักคนเมืองขอนแก่น
“ถนัด แสงทอง” แห่งศูนย์เรียนรู้สวนผักคนเมืองขอนแก่น เล่าว่า การจัดกิจกรรมอบรมขึ้นที่บ้านโนนชัย 1 ครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้เป้าหมายที่จะทำให้เกิดศูนย์เรียนรู้สวนผักคนเมืองแห่งที่สองของเมืองขอนแก่น โดยตามแผนกำหนดจะจัดอบรม 3 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรก
เนื้อหาในการอบรมจึงเป็นเรื่องพื้นฐานหลักๆ ได้แก่ (1) แนวคิดการปลูกอาหารและการจัดการขยะอินทรีย์ในบ้าน (2) น้ำหมักจุลินทรย์จากน้ำซาวข้าว และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (3) การปรับปรุงดิน/ผสมดินปลูก (4) การทำถุงปลูกจากป้ายไวนิล และ (5) การย้ายกล้าผัก
ด้วยเนื้อหาดังกล่าว ปรากฏว่า ผู้เข้าร่วมการอบรมกว่า 30 ชีวิตต่างให้ความสนใจและมีส่วนร่วมกันอย่างเต็มที่ เหตุผลสำคัญมาจากการที่ได้ผู้เข้าร่วมมีความตั้งใจที่จะเรียนรู้อย่างจริงจังอยู่ก่อนแล้ว โดยที่ทางแกนนำได้ลงไปสำรวจหาผู้สนใจไว้ก่อนแล้ว พบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยที่มีเวลาอยู่กับบ้าน อีกทั้งบางคนก็มีพื้นฐานเรื่องการปลูกพืชอยู่แล้วด้วย
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดมาจาก 4 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนโนนชัย 1 โนนชัย 2 โนนชัย 3 และชุมชนดอนหญ้านาง 2
ถนัดเล่าว่า การอบรมใช้รูปแบบเน้นการปฏิบัติ โดยเริ่มจากการสาธิต แล้วพาลงมือทำ เพื่อมุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมการอบรมสามารถกลับไปทำเองที่บ้านได้ หลังจากนั้นแล้วก็จะได้มีการติดตามผล
จากนั้นในการอบรมครั้งที่ 2 จะเน้นเนื้อหาเรื่องโรคพืช ส่วนครั้งสุดท้ายจะเป็นการสรุปผลและวางแผนการปลูกจริงจัง ซึ่งคาดว่ากิจกรรมอบรมครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นประมาณช่วงเดือน ตุลาคม ที่เข้าสู่ฤดูหนาวพอดี จึงจะเป็นช่วงเวลาที่ปลูกผักได้ดี
“ถึงตอนนั้นก็จะคุยว่าจะลงมือกันอย่างไร แล้วลงปลูกกันเต็มที่ เพราะช่วงนี้หน้าฝนปลูกยากหน่อย เน้นการเรียนรู้ไปก่อน ลองปลูกสักสองสามชนิดกันก่อน” ถนัดอธิบาย
สำหรับบทสรุปในส่วนการอบรมครั้งแรก พบว่า ผู้เข้าร่วมตอบสนองเป็นอย่างดี โดยต่างระบุว่า การอบรมช่วยให้ทำเป็น และพร้อมที่จะกลับไปทำต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความรู้ที่ได้ไปนั้นเน้นการใช้วัสดุที่มีอยู่แล้วในครัวเรือน เช่นน้ำหมักจากน้ำซาวข้าว ใช้ถุงหรือแก้วที่เป็นผ่านการใช้งานและกลายเป็นขยะแล้ว ซึ่งจะทำให้การปลูกผักดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จึงยิ่งเป็นสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทางปฏิบัติได้จริง












ถ่ายภาพโดย นภวรรณ งามขำ