ที่ร้างไม่ห่างรัก จากโรงเรียนอนุบาลร้าง สู่สวนผักกว้างๆ ที่หล่อเลี้ยงชุมชน

ชุมชนขนาด 800 หลังคาเรือนของหมู่บ้านสินสมบูรณ์ กลางย่านพุทธมนฑลสาย 4 แห่งนี้ดูเผินๆ อาจไม่ต่างจากชุมชนเมืองทั่วไป แต่ถ้าก้าวเข้ามามองในรายละเอียดจะพบการขับเคลื่อนเรื่องพื้นที่สร้างอาหารที่น่าสนใจทั้งมิติของการเยียวยาปากท้องและการเยียวยาความสัมพันธ์ในชุมชนให้แน่นแฟ้น


.
ด้วยย้อนกลับไปราว 1 ปีก่อน พื้นที่ของโรงเรียนอนุบาลร้างอายุกว่า 30 ปีกลางชุมชนแห่งนี้ยังคงไร้ประโยชน์ เป็นที่ๆ สมาชิกในชุมชนลงความเห็นว่ารกและอันตรายจากสัตว์มีพิษ กระทั่งเกิดการจับเข่าคุยกันระหว่างสมาชิกที่มีแนวคิดใกล้เคียงกันในวันหนึ่ง จนเกิดเป็นโครงการฟื้นฟูอนุบาลร้างให้ไม่ห่างรัก ด้วยมีพืชผักนานาชนิดอุ้มชูผืนดินแห่งนี้ไว้
.
“มันเริ่มต้นจากเราอยากปรับปรุงพื้นที่ร้างให้น่าอยู่ แต่พอคิดต่อยอดไปเรื่อยๆ และได้ร่วมทำงานกับโครงการสวนผักคนเมือง สุดท้ายมันได้กลายเป็นแปลงผัก และเมื่อสมาชิกในกลุ่มลงมือจริงจังกับมัน สวนตรงนี้จึงกลายเป็นพื้นที่ที่ช่วยเยียวยาปากท้อง โดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่เห็นได้ชัดว่าผักจากแปลงกระจายสู่คนเปราะบางในพื้นที่รอบๆ และช่วยเขาได้จริงๆ”

หนึ่งในสมาชิกบอกแบบนั้น พร้อมขยายความว่าไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน แต่ช่วยเยียวยาจิตใจของพวกเขาเหล่านั้นด้วย เพราะแน่นอนว่า การทำกิจกรรมกลางแจ้งและได้เฝ้ามองผลผลิตติดดอกออก ย่อมทำให้จิตใจเบิกบาน โดยเฉพาะยามที่สังคมมีแต่ข่าวร้าย
.
ปัจจุบันสวนผักขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งนี้เป็นแหล่งอาหารที่อัดแน่นด้วยผักนับสิบชนิด เป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับครัวกลางที่ทำหน้าที่แจกจ่ายอาหารช่วงวิกฤติ และเป็นวัตถุดิบสำหรับครัวประจำสวน ที่พาให้คนในชุมชนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ วัยเกษียณ มาใช้เวลาล้อมวงกินข้าวด้วยกันยามแดดร่มลมตก

และหากถามว่าปัจจัยความสำเร็จของพื้นที่ร้างไม่ห่างรักแห่งนี้คืออะไร หนึ่งในแกนนำสมาชิกก็ตอบเต็มเสียงว่าคือ “การบริหารจัดการสวนอย่างเข้าใจ”

อันหมายถึงการจัดการทำงานในสวนให้เป็นระบบมีหน้าที่ชัดเจน และเก็บข้อมูลผลผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อประเมินศักยภาพของพื้นที่สำหรับต่อยอดการพัฒนา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมาพร้อมกับความเข้าใจ ทั้งเข้าใจความหลากหลายทางความคิดของสมาชิกที่ต่างกันทั้งวัยและประสบการณ์ และเข้าใจบริบทต่างๆ ในพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาด้วยนั่นเอง


.
.
#สวนผักคนเมือง #ปลูกเมืองปลูกชีวิต