สวนผักมินนิอาโปลิสเหนือและกองทัพอาสาสมัคร ร่วมกันปลูกอย่างอินทรีย์

ชุมชนที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ได้กลายเป็นอนุสรณ์และศูนย์กลางสำหรับการจัดคอนเสิร์ต ชั้นเรียน และการแสดงฟรี

ผักออร์แกนิก  ปิกนิก  คอนเสิร์ตและการแสดงหุ่นกระบอก ทุกอย่างฟรี

สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพื้นที่ว่างเปล่าในมินนิอาโปลิสตอนเหนือ ปัจจุบันกลายเป็นบ้านของสวนผัก Old Highland Peace Garden ที่ขับเคลื่อนโดยอาสาสมัคร ซึ่งเต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ในช่วงฤดูกาลปลูกและอื่น ๆ

สวนผักแห่งนี้เป็นผลงานของเพื่อนบ้าน Jae Wencl และ Angelina McDowell ที่ต้องการสร้างจุดรวมตัวของชุมชนที่มีศูนย์กลางอยู่ที่การทำสวนผัก  เมื่อเกิดโรคระบาด ก็ได้กลายเป็นวิธีการช่วยเหลือคนขัดสนและเกื้อหนุนในรูปแบบอื่นๆ

ไม่นานก่อนที่ Wencl และ McDowell จะพบว่าตัวเองเป็นผู้นำกองทัพอาสาสมัคร

“ชุมชนที่มารวมตัวกันเพื่อสร้างสวนผักออร์แกนิกนี้ล้วนเกิดขึ้นตามธรรมชาติ” จัสติน โบรคอว์ ผู้เสนอชื่อสวน ซึ่งเป็นผู้ชนะการประกวดประจำปีของ Star Tribune Beautiful Gardens กล่าว

แผนสำหรับสวนผักถูกวางเมื่อสี่ปีที่แล้ว หลังจากที่ Wencl และ McDowell ทั้งคู่ทำงานอยู่ใน Old Highland Neighborhood Association ได้เข้าร่วมการชุมนุมของสมาคม “เราสังเกตเห็นว่ามันมักเป็นคนเดิมเสมอ และเราคิดว่า ‘เราจะหาคนใหม่มาเพิ่มได้อย่างไร’” McDowell กล่าว  

ด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Gardening Matters พวกเขาได้ปักหมุดลงบนพื้นที่กลางแจ้งขนาด 65 x 65 ฟุตที่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของ N. Emerson และถนนสายที่ 18 โดยสภาการพัฒนาผู้อยู่อาศัยใหม่ใน Northside ได้มอบเงินสนับสนุนจำนวน $500 แก่พวกเขาในการซื้อวัสดุอุปกรณ์และการจัดสวน  และสมาคมของเพื่อนบ้านภายในชุมชนก็ได้ระดมเงินอีก 1,000 ดอลลาร์เพื่อซื้อเครื่องมือปลูกผัก

และพวกเขาก็รู้เพียงเล็กๆ ว่ากำลังหว่านเมล็ดพืชเพื่อสิ่งที่ใหญ่กว่า

กองทัพอาสาสมัคร

สวนผักมีขนาดเล็ก แต่ก็ประสบความสำเร็จ แต่ปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 ทำให้ต้องจัดหาอาหารให้เพื่อนบ้านมากขึ้น

จู่ๆ Wencl และ McDowell ก็พบว่าตัวเองทำโฮมสคูลกับลูกๆ ของพวกเขา ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่างงานเต็มเวลา (work-life balance) McDowell ยังอยู่ในช่วงกลางเทอมของบัณฑิตวิทยาลัยโดยทำงานในระดับปริญญาโทด้านสังคมสงเคราะห์

แม้ว่าพวกเขาจะมีทีมทำสวนผักเล็กๆ อยู่แล้ว พวกเขาก็เริ่มพยายามดึงดูดอาสาสมัครให้มากขึ้น โพสต์คำวิงวอนบนหน้า Facebook ของ Old Highland Peace Garden โซเชียลมีเดียอื่นๆ และถามใครก็ตามที่พวกเขาเจอ

“เราแค่ต้องการให้ผู้คนช่วยเหลือเมื่อทำได้ มันเป็นความพยายามของอาสาสมัครที่ไม่ต้องขอ” Wencl กล่าว

ในไม่ช้า พวกเขามีกองทัพอาสาสมัครที่บริจาคไม้ยืนต้นให้กับถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน และขนดินเพื่อเพิ่มแปลงผักในสวน อาสาสมัครบางคนสร้างสวนเพื่อผสมเกสร แมลงชนิดอื่นๆ สร้างรังผึ่ง

เนื่องจากสวนผักมีงบประมาณจำกัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินช่วยเหลือ ผู้อยู่อาศัยในทรัพย์สินที่อยู่ใกล้เคียงจึงต้องจ่ายค่าน้ำ ธุรกิจในท้องถิ่นก็เริ่มเข้ามาเช่นกัน รวมถึง Goddard’s Gardens และ Project Sweetie Pie ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารในมินนิอาโปลิสตอนเหนือ  สโมสรโรตารีแห่งนอร์ทมินนิอาโปลิสจัดทำความสะอาดสวน บริจาคม้านั่งและป้ายที่ได้รับทุนสนับสนุนการระบุพืชและผัก

สมาชิกชุมชน Nikki Carlson บริจาคสิ่งของต่างๆ รวมถึงดาดฟ้าลอยน้ำซึ่งในไม่ช้าจะกลายเป็นสถานที่รวมตัวสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ และรับคัดเลือก Keller Williams Realty เพื่อรับบริการหนึ่งวัน โดยตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ 100 รายขุดดินเพื่อสร้างแปลงผักและทำความสะอาดสวนผัก และจากนั้นบริษัทก่อสร้างของมอร์เทนสันก็เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

“เราบอกว่าเราสามารถใช้โต๊ะปิกนิกได้ พวกเขาบอกว่าคุณควรฝันให้ใหญ่ขึ้น” Wencl กล่าว  ตอนนี้ก็มีร้านปลูกไม้เลื้อยบนเว็บไซต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สัจธรรมตามรากเหง้า

ในช่วงฤดูกาลปลูก สวนผักจะผลิตผักและผลไม้ออร์แกนิกที่สดใหม่หลายพันปอนด์

“เราไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรืออะไรทั้งสิ้น เราพยายามที่จะรักษาระดับการบำรุงรักษาให้ต่ำ แต่ใช้งานได้จริง” Wencl กล่าว  “เราต้องการให้สวนผักมีความอุดมสมบูรณ์ ให้ผลผลิตและเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน” ซึ่งทุกคนสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่พวกเขาต้องการเมื่อไร

“เราแค่ต้องการให้ผู้คนทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ” McDowell กล่าว  “แนวคิดคือมีคนเดินผ่านไปมาและพูดว่า ‘ฉันต้องการผักสควอชสำหรับอาหารค่ำในวันพรุ่งนี้’ และมันก็อยู่ที่นั่น” นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเลี้ยงเก็บเกี่ยวเป็นประจำ ซึ่งเพื่อนบ้านจะรวบรวมและเลือกผลิตผลสำหรับตนเองและสำหรับผู้อื่นที่ไม่สามารถเลือกเองได้

ฝ่ายเก็บเกี่ยวสามารถทำได้มากกว่าแค่การเก็บเกี่ยว ในเย็นวันหนึ่งของฤดูร้อน เพื่อนบ้าน 30 คนมารวมตัวกันเพื่อเก็บผักชีฝรั่ง แตงกวา มะเขือเทศ พริก คะน้า และกระหล่ำปลี  เด็กๆ จดจ่ออยู่กับการเก็บถั่วและผลเบอร์รี่ เพราะสามารถทานของว่างระหว่างทางได้  นอกจากนี้ยังมีอาหารเรียกน้ำย่อยกับฮอทดอกย่าง อาหารเรียกน้ำย่อย เครื่องเคียง และของหวานอีกด้วย

McDowell กล่าวว่างานต่างๆ เช่น การรวมตัวในสวนผักได้ช่วยนำคนพื้นที่ใกล้เคียงมารวมตัวกัน “เมื่อเราจัดงานต่างๆ ในสวน ผู้คนก็เริ่มปะปนกันและทำความรู้จักกัน” เธอกล่าว

สำหรับอาสาสมัคร Sue Tincher สวนผักนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เธอย้ายจากมินนิอาโปลิสทางตะวันตกเฉียงใต้ไปยังมินนิอาโปลิสตอนเหนือเมื่อเธอมองดูบ้านเรือนในเมือง “มันเป็นปัจจัยใหญ่ ฉันชอบที่มีสถานที่สำหรับเชื่อมต่อกับธรรมชาติเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้าน” เธอกล่าว

Kelley Eubanks ชอบที่เป็นสถานที่ที่ต้อนรับทุกคน “สำหรับฉัน มันเป็นพื้นที่ที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งผู้คนสามารถมาพักผ่อนและแสดงสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชุมชนนี้” เธอกล่าว

การสร้างชุมชน

สวนผักแห่งนี้ยังกลายเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมทางการศึกษาและสังคมอีกด้วย แปลงผักและต้นไม้ได้รับการติดฉลากอย่างระมัดระวัง “หลายคนกำลังเก็บผักสดเป็นครั้งแรกและไม่รู้ว่ามันคือผักอะไร” Wencl กล่าว “เรากำลังสอนคนจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ให้เก็บเกี่ยวผักและผลไม้สดเป็นครั้งแรก”

The Raptor Center, Minneapolis Nature Preschool และ Agape Child Development Center ได้เป็นเจ้าภาพการสาธิตและทำงานร่วมกัน โรงละคร Open Eye Figure ยังจัดแสดงหุ่นกระบอก และมีการจัดคอนเสิร์ตเชลโลหรือไวโอลินเป็นครั้งคราวในสวนผัก

นอกจากนี้ยังกลายเป็นอนุสรณ์หลังจากวัยรุ่นสามคนเสียชีวิตเมื่อยานพาหนะที่พวกเขาชนกันที่สวนผักระหว่างการไล่ล่าของตำรวจที่ขับมาด้วยความเร็วสูงในฤดูใบไม้ร่วงปี 2020

“เราพยายามรักษาพื้นที่สำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูงที่มาที่นี่” McDowell กล่าว  “เราปลูกผัก (ที่อนุสรณ์สถาน) และเราพยายามทำให้พวกเขารู้สึกเป็นที่ต้อนรับในพื้นที่นี้”

นักปลูกในละแวกบ้านกำลังวางแผนว่าจะปลูกอะไรในฤดูกาลที่จะถึงนี้  มีการจัดคอนเสิร์ตและชั้นเรียนโยคะฟรีก็ใกล้จะถึงแล้ว “เมื่อเวลาผ่านไป ฉันรู้สึกว่าที่นี่จะดีขึ้นเรื่อยๆ” Wencl กล่าว

และสามารถเติบโตแบบอินทรีย์ต่อไปได้  “(ปรัชญา) ไม่ได้พยายามบังคับใครให้เดินตาม” McDowell กล่าว “ความก้าวหน้าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ”

Reference

https://www.startribune.com/north-minneapolis-garden-and-its-army-of-volunteers-grew-organically/600135855/?refresh=true