หยอดเมล็ดพันธุ์ “กลางผืนดิน” แต่งอกงามที่ “กลางใจ”

วันนี้สวนผักคนเมือง ขอนำเรื่องราวของสมาชิกโครงการสวนผักคนเมือง 2 พื้นที่ในจังหวัดชลบุรี ภายใต้โครงการส่งเสริมเกษตรในเมืองฯเพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากของกลุ่มชุมชนที่มีความเปราะบางด้านอาหารในพื้นที่เมือง ด้วยการสนับสนุนของสำนักสร้างสรรค์โอกาส (สำนัก6) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)  

เรื่องราวที่เกิดขึ้น ประสบการณณ์ ความประทับใจนี้ เล่าผ่านมุมมองของพี่เลี้ยงในพื้นที่ คือ ทีมสวนผักคนเมืองศรีราชา สมาชิกเก่าแก่ของเรา นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 เครือข่ายนี้เป็นกลุ่มแรกๆ ที่สร้างเรื่องราวของสวนผักบำบัดขึ้น ผ่านการเชื่อมโยงการทำเกษตรในเมืองเข้ากับการบำบัดเยียวยาจิตใจ ที่เกิดขึ้นในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ของกลุ่มงานจิตเวช โรงพยายาลอ่าวอุดม(ชื่อเดิม) ที่ใช้ผักในกระถางเป็นเครื่องมือเปิดใจ เปิดบทสนทนาระหว่างคนไข้ จิตอาสา พยาบาล และหมอ ให้เกิดความไว้วางใจระหว่างกัน  เมื่อประตูของความไว้วางใจถูกเปิดออก กระบวนการบำบัดก็จะสามารถทำได้ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการวางใจ จะเป็นเส้นทางไปสู่การยอมรับ และเข้าใจตนเอง ทั้งของคนไข้ จิตอาสา พยาบาล และหมอนั่นเอง

เรื่องเล่า สวนผักเยียวยาจิตใจในท่ามกลางภาวะวิกฤตนี้ เขียนบอกเล่าโดยหมอจิ๊บ ญาดา จำนงค์ทอง  ทางโครงการสวนผักคนเมืองไม่ได้ดัดแปลง แก้ไขข้อความใดเลย เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ การหยอดเมล็ดพันธุ์ “กลางผืนดิน” แต่งอกงามที่ “กลางใจ” ไปพร้อมกัน

จากการเป็นหนึ่งในทีมพี่เลี้ยงของสวนผักศรีราชาทั้ง 2 โครงการ คือ (1)โครงการสวนผักบำบัดสีชาและ (2)โครงการสวน_สนุกในสวนลับ​ secret​ garden ทีมพี่เลี้ยง ซึ่งมี   จิ๊บ ป้าพิศ พี่สุพัฒน์​ พี่ตุย ได้ลงติดตามเยี่ยมเยือนพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา  เนื่องจากทั้ง 2 สวนนี้ อยู่ห่างกันไม่ถึง 10 กิโลเมตร  และพวกเราทุกคนก็มีบ้านอยู่ใกล้ๆสวนผักทั้ง 2 แห่ง ยิ่งสวนผักบำบัดสีชานี่ไปบ่อยมาก เพราะที่นี่มีอีกอย่างหนึ่งที่เป็นแรงดึงดูดที่ดี คือมีกาแฟ ที่ชงและขายโดยบาริสต้าหนุ่มน้อยมือใหม่ลูกเจ้าของร้านสีชา ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการสวนผักบำบัดสีชานั่นเอง  และพี่ตุยซึ่งเป็นลูกชายป้าพิศ ได้ย้ายมาปลูกผักสลัดที่สวนผักบำบัดสีชาด้วย สวนผักแห่งนี้จึงเป็นเหมือนที่สุมหัวของพวกเราชาวสวนผักคนเมืองศรีราชา

และในช่วงวิกฤติโควิดน้องสาวและน้องเขยพี่ตุยก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบเช่นเดีบวกันปกติพี่วิรัตน์ และพี่ปูจะขายก๋วยเตี๋ยว แต่ช่วงนี้ไม่สามารถขายได้ เลยต้องมาช่วยพี่ตุยทำสวนที่สวนผักบำบัด  สีชาทุกวัน และป้าพิศเองนอกจากจะปลูกผักใส่กระถางเต็มบ้านแล้ว ก็ยังมาช่วยที่สวนผักบำบัดสีชาเกือบทุกวัน ป้าพิศจะเพาะต้นกล้าผักมาจากบ้าน และเอามาย้ายลงแปลงผักที่สวนผักบำบัดสีชาพร้อมกับเปิดคลินิคช่วยสอน การ “ปลูกผักง่ายๆสไตล์ป้าพิศ”  ให้กับสมาชิก นอกจากพี่ตุย พี่รัตน์ และภรรยา(พี่ปู) ป้าพิศ แล้ว สวนผักบำบัดสีชายังเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ และคนที่แวะเวียนมาที่ร้านการแฟก็สามารถมาเรียนรู้และปลูกผักร่วมกับสมาชิกได้ด้วย เช่น ครอบครัวแม่ปุ๊ก&นุ และน้องขิม เข้าามาปลูกผักและทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ปักผ้าในสวน เป็นต้น

เรื่องอาหารเราแทบไม่ได้ขาดอาหารกันเลย เรามีกลุ่มไลน์ของเพื่อนๆสีชาการกาแฟกว่า 30 ครอบครัวที่ส่งข่าวกันช่วงนี้ใครมีอะไรที่บ้าน มีอะไรในแปลงก็สามารถเก็ยเกี่ยวมา แล้วมีจุดนัดแลกเปลี่ยน ซื้อขายของกัน  ทั้งที่สวนผักบำบัดสีชาหรือไม่ก็ที่​ สวน_สนุกในสวนลับ

เรื่องประทับใจ &โครงการสวนผักบำบัดสีชา

เป็นสถานที่ที่ทุกคนอยากมามากๆ เพราะเจ้าของสีชาจิตใจงดงามเป็นธรรมชาติ และเป็นที่รักสำหรับทุกๆคน คนที่ได้สัมผัสสีชา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของสีชาที่มีจิตใจงดงามแล้ว สถานที่ก็สะอาดเรียบร้อยมีสวนดอกไม้​  สวนผักออแกนิก และมีบริการที่ประทับใจ ที่สีชา มีแต่คำว่าแบ่งปัน..แบ่งปัน..และแบ่งปันด้วยหัวใจจริงๆ..เมื่อคุณย่างเข้ามาสีชาก้าวแรก ความป่วยทั้งกายและใจของคุณจะถูกดูดซับไปในทันที พลังงานสีเทาๆของคุณจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานสีขาว จนก้าวย่างสุดท้ายที่ออกไปจากสีชาตัวคุณจะโล่งโปร่งเบา ลมหายใจจะลึกและยาว โดยที่ตัวคุณไม่รู้ตัวว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน และเกิดขึ้นได้อย่างไร

และคุณก็จะเดินออกไปด้วยรอยยิ้มสดใสพร้อมความสงสัยใคร่รู้เอ๊ะ.. มีสถานที่แบบนี้ในประเทศไทยด้วย เป็นบ้าน เป็นครัว เป็นสนามเด็กเล่น เป็นป่าผจญภัย เป็นป่าอาหาร เป็นคาเฟ่ เป็นสวนผัก เป็นสวนบำบัดทั้งหมดอย่าเชื่อ..เชิญชวนเข้ามาสัมผัสด้วยตัวคุณเอง…ที่นี่คือแหล่งพลังงานโดยธรรมชาติอย่างแท้จริง..คุณจะรู้ได้ด้วยตัวของคุณเอง..

อีกเรื่องคือทริปทัวร์สวนผักบำบัด เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม่ๆลูกๆ ไปเที่ยวสวน โดยตั้งใจไปชมผักกระถางบ้านป้าพิศ แต่ที่รู้สึกว้าวคือ เห็นเด็กๆ สนใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจมากนัก เช่น บ่อปลาคราฟ และต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง

น้องเพลงนั่งสังเกตปลาเคลื่อนไหว แล้วบอกว่า ปลามีสมาธิดีมาก เราชมว่าเก่งจัง น้องเพลงตอบว่า.. ถ้าตั้งใจมันก็สังเกตได้ทุกคนแหละ… โอ้ยๆๆๆ หมอจิ๊บโดนเข้าไปซะ 1 ดอก..

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้สนทนากะน้องเพลง  จากนั้นก็ไปทัวร์สวนพี่สุพัฒน์ต่อ  น้องเพลงดูผ่อนคลายมากขึ้นเล่าวีรกรรมในอดีตของตัวเองให้ฟังอย่างสนุกสนาน… รู้สึกทัวร์ therapy ทริปนี้ ดีใจที่เกิดการสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างหมอจิ๊บกับน้องเพลง  เพราะน้องเพลงเป็นเด็กพิเศษที่ไม่ค่อยจะสนใจพูดคุยกับใครมากนัก.. ต่อมาเราจัดทริปไปเที่ยวสวนพนัสกันอีก… ได้นั่งรถไปคันเดียวกับน้องเพลง​  เราเริ่มคุ้นเคยกัน และน้องเปิดใจเล่าวีรกรรมของตัวเองให้ฟังอีกเรื่อง…. น้องเพลงเป็นเด็กพิเศษ.. ค่อนข้างเก็บตัว เวลาใครมาสีชาจะหลบเข้าบ้าน.. หมอจิ๊บไปสีชามา ประมาณ 1 ปี ไม่เคยได้คุยกะน้องเพลง จนมาจัดทัวร์ therapy ครอบครัวแม่ลูกไปเที่ยวสวนผักกัน.. จึงได้เปิดใจน้องเพลงได้เปิดพื้นที่ “กลางใจ” จึงรู้สึกประทับใจที่มี ความ “ไว้วางใจ” เกิดขึ้นในเส้นทางเดินของสวนผักบำบัดสีชา​ “สัมพันธภาพอันดีและความไว้วางใจ ซึ่งกับเด็กพิเศษแล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ

สำหรับพี่เลี้ยง และคนทำงานสวนผักบำบัด หมอจิ๊บเห็นถึงความทุ่มเทและตั้งใจมากที่จะทำประโยชน์เพื่อทุกๆ คนที่ย่างก้าวเข้ามาจริงๆ.. และก็วางใจในสีชา เพราะจากการพูดคุยกันบ่อยๆ ทำให้รู้จักสีชาเป็นอย่างดีว่า ข้างในหัวใจสีชานั้นมีความงดงามอ่อนโยนและเข้มแข็งมาก​  เป็นต้นแบบของการดูแลตนเองได้เป็นอย่างดี.. ไม่ว่าจะงานหนักแค่ไหน.. แต่สีชาไม่พลาดโอกาสในการแบ่งปันเวลาให้ตัวเองและครอบครัวเสมอ

ทุกวันนี้ สวนผักสีชา เป็นพื้นที่เปิดสำหรับทุกคนเข้ามาเรียนรู้ได้ตลอดเวลา เพราะมีทีมงานที่เข้มแข็ง มีพี่ตุยทำสวนอยู่เป็นประจำในพื้นที่สีชากาแฟ และแนวทางในการทำสวนของพี่ตุยก็เรียบง่ายและแบ่งปันความสุขให้ทุกคน แถมยังมีครอบครัวพี่ตุยอีก 3 – 4 คน เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน สีชาจึงเป็นพื้นที่ของความสบายใจ ผ่อนคลาย ให้คนเข้ามาสัมผัสแล้วอยากเข้ามาอีก​  คนใหม่ๆ ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการบอกต่อ

โครงการสวน_สนุกในสวนลับ ที่นี่สนุกจริงๆ ทั้งเด็กๆ และพ่อแม่ บนพื้นที่สวนผักแห่งนี้ พ่อแม่วางใจในตัวลูก เปิดโอกาสให้เด็กได้เป็นอิสระ เชื่อในศักยภาพของเด็กๆว่ ามีพลังเหลือหลาย มีความคิดสร้างสรรค์เกินกว่าเราจินตนาการได้  พลังเด็กดูเหมือนจะมากกว่าผู้ใหญ่ซะอีก..เพราะการทำงานของเขา คือการเล่น เขาสนุกเขาร่าเริง เบิกบาน และสร้างสรรค์ตลอดเวลา เหนื่อยก็หยุด นั่งพัก นอนหลับ หิวก็กิน แถมยังทำอาหารกินเองในสวนแบบง่ายๆ ทอดไข่ ไปเก็บไข่จากเล้า เราเองได้แต่อิจฉาความเป็นเด็ก ความสุขของผู้ใหญ่หายไปไหนกันนะ

ที่นี่มีเด็กพิเศษมาทำกิจกรรมด้วยว้าวมากๆ น้องโบกี้ฉลาดเกินกว่าที่เราคิด ตั้งใจเรียนรู้ สนใจทุกกิจกรรมในสวน สำหรับหมอจิ๊บที่นี่เหมือนเด็กๆ ช่วยบำบัดผู้ใหญ่เลยมั้ง เพราะเขาทำให้พวกเรามีความสุขและสนุกไปด้วยทุกๆวัน

สมาชิกในทีมค่อนข้างหลากหลาย แม้จะเป้าหมายเดียวกัน แต่อาจจะมีแนวคิดและวิธีการเดินบนเส้นทางอาจแตกต่างกันไป การเรียนรู้ที่จะเข้าใจตนเอง เข้าใจชีวิต เข้าใจข้างในของตนเองจึงสำคัญด้วย  ดังนั้นการทำงานของเรา ทุกคนต้องเข้าใจการทำสวนเพื่อตัวเราเองก่อนใครๆ เพราะถ้าเราไม่มีความสุขคนใกล้ตัวจะไม่มีความสุขไปด้วย และเข้าใจความสำเร็จที่แท้จริง คือความสุขระหว่างทาง.. คือความสุขของทุกๆ คน ความสุขของเราอาจจะไม่ใช่ที่สังคมคาดหวัง แต่เราจะไม่ละเลยการดูแลจิตใจตัวเราเอง เป็นอันดับแรก

ขอบคุณเรื่องเล่าของความงาม ที่ “กลางใจ” จากสวนผักคนเมืองศรีราชา

เกษตรกรรม คือ ธรรมชาติ และความงามที่นำพาเราไปเรียนรู้ตนเองเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ และโลกใบนี้

บทความต่อไป เราจะเล่ากิจกรรม บรรยากาศ ความสนุก และความสุขของทั้ง 2 โครงการ ที่หมอจิ๊บเขียนถึง  รอติดตามได้