ชายวัย 70 กว่า กับการทำสวนวันละนิด จิตแจ่มใส

พอพูดถึงเรื่องการทำสวน ที่ต้องลงแรง ขุดดิน ถอนหญ้า ลงกล้า ปลูกผัก และอีกสารพัดการงานในสวนที่ล้วนต้องอาศัยกำลัง คนสูงวัยส่วนใหญ่ก็มักจะถอดใจ โดยเฉพาะคนสูงวัยที่เติบโตมากับการทำงานในออฟฟิศมาตลอด ใช้หัวในการทำงานเป็นหลัก มากกว่าการใช้มือลงแรง

 

ตอนไปเชียงใหม่ มีโอกาสได้ไปเยี่ยมสวนลุงออด ในเขตเทศบาลท่าศาลา เข้าไปถึงก็ให้พืชผักมากมายหลากหลายชนิดเติบโตบนผืนดินผืนใหญ่ ซึ่งเดิมเป็นที่รกร้างมาก่อน ที่น่าทึ่งคือ ผืนดินผืนนี้ ได้รับการพลิกฟื้น ให้กลายเป็นพื้นที่อาหารด้วยฝีมือของคุณลุงออดเพียงคนเดียว พอถามอายุก็ยิ่งทึ่งเข้าไปอีกว่าคุณลุงอายุ 70 กว่าแล้ว

 

 

คุณลุงเล่าให้ฟังว่า เดิมทีตัวเองเคยทำงานธนาคารมาก่อน พอเกษียณออกมา เห็นที่ดินแปลงนี้ที่ลูกซื้อเก็บไว้ถูกทิ้งร้างอย่างเปล่าประโยชน์ เลยคิดอยากจะทำสวนผักไว้กินเอง ด้วยความที่อยากจะมีอาหารดีๆไว้กิน จะได้สุขภาพดี

 

 

“ปลูกเองกินแล้วสบายใจ เวลาไปซื้อเขา ไม่รู้ใครปลูก และปลูกกันยังไง” คุณลุงบอก แต่สิ่งที่ได้มากกว่าอาหารก็คือ คุณลุงบอกว่า “ผมมีความสุขที่ได้ทำสวน”

 

 

เมื่อถามว่าคุณลุงไปรู้วิธีการปลูกมาจากไหน คุณลุงก็บอกว่า ตัวเองเรียนจบเกษตรมา แต่ไม่เคยลงมือทำสวนเลย ทำงานออฟฟิศมาตลอด ตอนนี้มีโอกาสได้ลองนำความรู้ที่เคยร่ำเรียนมาใช้ ซึ่งคุณลุงก็บอกว่า ความรู้ในตำรามันใช้ได้ไม่หมดหรอก เวลาลงมือทำจริงเราก็ต้องค่อยๆเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงไป

 

 

มองไปรอบๆ สวน มีทั้งกองหมักปุ๋ยไว้ใช้เอง มีที่ขังน้ำเพื่อไม่ให้มีคลอรีน เอาไว้ใช้รดต้นกล้าที่เพาะไว้ มีแปลงที่เตรียมขุดดิน และยกแปลง ตากดินไว้ เตรียมผสมกับปุ๋ยหมัก และลงกล้าปลูกต่อไป นอกจากพืชผักนานาชนิดแล้ว สวนแห่งนี้ยังมีมุมนั่งเล็กๆ ที่โรยผืนด้วยหิน ที่ขุดได้มาจากผืนดินแห่งนี้ด้วย

 

 

รายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสวนแห่งนี้ ทั้งการปลูก การดูแลพืชผัก ไปจนถึงโครงสร้างต่างๆ เช่นที่ขึงแสลน ที่นั่ง ล้วนทำด้วยน้ำพักน้ำแรงของคุณลุงคนเดียวทั้งสิ้น

 

 

เมื่อถามว่าคุณลุงเอาแรงมาจากไหน คุณลุงบอกว่า เราค่อยๆทำวันละนิดละหน่อย อย่างแปลงก็ขึ้นแปลงวันละ 1 แปลง แล้วก็ไปทำงานเล็กๆน้อยๆอย่างอื่น  กิจวัตรประจำวันคือพอตื่นเช้ามา ก็มาเข้าสวนตั้งแต่ตี5 ทำงานโน่นนี่นั่นไป พอประมาณ 8-9 โมง ลูกก็มาเรียกไปกินข้าว

 

 

เวลาเราคุยกับคุณลุง เราสัมผัสได้ถึงความสุขมากมายที่เกิดขึ้นในสวนแห่งนี้ เชื่อว่าเกิดจากทั้งการได้ลงมือทำ การเห็นพืชผักเติบโตงอกงาม ความภูมิใจที่ได้กินผลผลิตที่ตนเองปลูก แถมยังเป็นเหมือนแหล่งอาหารของชุมชน ที่ยามเพื่อนบ้านไหนต้องการผลผลิตอะไรไปทำกับข้าว ก็สามารถเข้ามาขอแบ่งปันไปได้เสมอ นอกจากนี้เวลาคุณลุงมีโอกาสได้เข้าไปร่วมประชุมกับทางเทศบาล ก็มักจะมีผลผลิตติดไม้ติดมือไปฝาก บางทีก็มีต้นกล้าเพาะชำใส่ถุงดำไว้เตรียมไปแจกด้วย

 

 

นับเป็นความสุขเล็กๆ จากการทำสวนผักวันละนิด ของชายวัยเกษียณ ที่ยังมีเหลือแบ่งปันสู่ผู้อื่นได้มากมายจริงๆ