ชวนปลูกสมุนไพร เพิ่มธาตุไฟ ไล่หวัด เสริมภูมิคุ้มกัน

ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัส Covid19 นี้ นอกจากความไม่ประมาท ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนแล้ว การกลับมาดูแลสุขภาพของตัวเอง ให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

ในการดูแลตัวเองแบบธรรมชาติบำบัด ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้พูดถึงเรื่องการดูแลตัวเองให้อบอุ่น เพิ่มธาตุไฟให้ตัวเอง โดยการกินอาหารที่มีรสเผ็ดร้อนของเครื่องเทศ สมุนไพรต่างๆ อย่างขิง ข่า ตะไคร้ กระเพรา โหระพา แมงลัก พริกไทย เพื่อช่วยปรับสมดุล และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

ดูรายชื่อผักแล้ว ก็คิดว่า พืชผักเหล่านี้ เป็นสมุนไพร ที่เราสามารถปลูกไว้คู่บ้านเองได้ไม่ยากนัก ที่สำคัญคือ สำหรับผู้เริ่มต้น ก็สามารถนำพืชผักที่ซื้อมากินจากตลาด นำมาปักชำ หรือขยายพันธุ์ปลูกต่อได้เองด้วย ลองมาดูกันนะคะว่าพืชผักแต่ละชนิด เขามีสรรพคุณอะไร และเราจะปลูกไว้คู่บ้านกันยังไงนะคะ

 

Close up of fresh ginger root spice on wooden table
  1. ขิง เป็นพืชที่ใช้แก้หวัด แก้ไอ ได้ จากการศึกษาวิจัยเขาพบว่า ขิงมีฤทธิ์ที่ช่วยฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ โดยเขาพบว่า ถ้าน้ำขิงแก่ที่ต้มเดือดนาน 30 นาที จะทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาส จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น ในการแพทย์แผนจีน ขิงก็เป็นยาที่ช่วยสร้างสมดุลในยามที่ร่างกายเย็น หรือมีความเป็นหยินมากเกินไป

วิธีปลูกขิง          

  • นำขิงที่ซื้อมาจากตลาด มาหั่นเอาส่วนที่แง่งออกมา
  • นำกล่องพลาสติกมา รองพื้นด้วยทิชชู่เปียก แล้วนำแง่งขิงวางลงไปบนทิชชู่เปียก
  • พรมน้ำให้ทั่ว แล้วปิดฝาไว้ เพื่อเก็บความชื้น
  • ทิ้งไว้จนเห็นขิง แตกตางอกรากขึ้นมา ในช่วงระหว่างนั้น ควรสังเกตดู หากแห้งไปก็ควรเปิดฝาพรมน้ำ รักษาความชื้นไว้
  • เมื่อขิงงอกรากแล้ว ก็นำไปปลูกลงดิน หรือลงกระถาง ที่ปรุงดินไว้เรียบร้อยค่ะ

ขิงเป็นพืชที่เติบโตได้ดีในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ดังนั้นถ้าใครคิดจะปลูกก็เตรียมตัวปลูกกันได้เลยค่ะ หมั่นรดน้ำ ระวังไม่ให้น้ำขัง อดใจรอนานหน่อย สัก 8-10 เดือน เมื่อสังเกตเห็นต้นเริ่มเหี่ยว ก็แสดงว่าเก็บผลผลิตได้ค่ะ

 

 

  1. กระเพรา โหระพา แมงลัก หรือที่ฝรั่งเรียกว่าเบซิล สมุนไพรกลุ่มนี้มีสรรพคุณที่ช่วยแก้ไอ แก้หวัด ทำให้หายใจโล่ง แก้เจ็บคอ ช่วยขับเสมหะ และมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ได้อย่างดี โดยวิธีหลักๆที่คนส่วนใหญ่ใช้ คือนำไปต้ม ทำเป็นชาสมุนไพรดื่ม บางคนอาจจะผสมน้ำผึ้ง และมะนาว ปรุงรสไปด้วยก็ได้ โดยน้ำ 1 ถ้วย ก็ใช้ใบกระเพรา โหระพา หรือแมงลัก สัก 10-20 ใบ ต้มจนเดือดประมาณ 15 นาที แล้วนำมาดื่ม

วิธีปลูกกระเพรา โหระพา แมงลัก

อันที่จริง หากมีเมล็ด ก็แนะนำให้ปลูกโดยใช้เมล็ด เพราะจะทำให้ต้นโต อยู่ได้นาน แต่อาจใช้เวลานานหน่อย อย่างไรก็ตาม วิธีง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำให้ได้ ก็คือ นำก้านกระเพรา โหระพา หรือแมงลัก ที่ซื้อมาจากตลาด เมื่อเด็ดใบกินเรียบร้อย ก็สามารถนำมาปักชำลงดินต่อได้

   เคล็ดลับสำคัญคือ ควรเลือกก้านที่กึ่งแก่ กึ่งอ่อน คือลำต้นมีสีน้ำตาล ปลายด้านบนสีเขียว ก็จะมีเปอร์เซ็นต์การรอด และเติบโตได้ดีกว่า ที่สำคัญคือ ควรมีความสดใหม่ด้วย ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นนานแล้ว ก็จะงอกยากขึ้น

เคล็ดลับสำคัญอีกประการ สำหรับคนปลูกกระเพรา โหระพา แมงลัก คือต้องหมั่นตัดกิน หากปล่อยไว้จนออกดอก ต้นก็จะแก่ ไม่ค่อยมีใบงามๆให้เด็ดกินค่ะ

 

 

  1. ตะไคร้ เป็นสมุนไพรคู่ครัวอีกชนิด ที่มีสรรพคุณในการช่วยแก้หวัด ช่วยขับเหงื่อ และลดไข้ได้อย่างดี นอกจากนี้ตะไคร้ยังมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงระบบประสาท ลดความเครียด และความกังวลลงได้ด้วย

          วิธีปลูกตะไคร้

ตะไคร้เป็นพืชอีกชนิดที่หากซื้อมาทำกับข้าวแล้วเหลือ ก็สามารถนำไปปลูกต่อได้  โดยนำต้นที่ตัดใบออกเรียบร้อยแล้ว มาแช่น้ำทิ้งไว้ จนรากงอก ระหว่างนี้ ให้ระวัง คอยเปลี่ยนน้ำอยากให้น้ำเน่า เมื่อรากงอกแล้ว ก็นำไปปลูกลงดิน หรือลงกระถางได้ หมั่นรดน้ำเช้า เย็น ตั้งไว้กลางแดด ก็จะโตเร็วค่ะ เมื่อต้นโตแล้ว ก็หมั่นถอนไปกิน หากทิ้งไว้ให้แตกกอออกหลายต้นเกิน ต้นตะไคร้ก็จะค่อยๆเล็กและลีบลงค่ะ เพราะฉะนั้น ปลูกแล้ว ก็หมั่นนำไปทำอาหารกินกันด้วยนะคะ หรืออาจจะทำเป็นน้ำตะไคร้ไว้ดื่ม โดยเฉพาะช่วงที่ไม่ค่อยสบาย ก็ได้ค่ะ

นี่เป็นเพียงตัวอย่างสมุนไพรเบื้องต้นที่หามาปลูกได้ง่ายๆ ที่สำคัญคือ อันที่จริง สมุนไพรแต่ละชนิดมีสรรพคุณมากกว่าการช่วยบรรเทาอาการไข้ อาการไอ หวัด หรือช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ตามที่กล่าวมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาอาการไมเกรน ลดการคลื่นไส้ บางอย่างก็ช่วยลดน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่พบว่าสมุนไพรพื้นบ้านเหล่านี้ อยู่ในกลุ่มป้องกันโรค หากรับประทานอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้มากถึง 70 %

ที่สำคัญคือ หากปลูกเอง ก็จะได้พืชผักที่สดใหม่ ปลอดภัยจากสารเคมี ยังไม่นับกระบวนการปลูก ที่มีส่วนช่วยให้เราได้ออกกำลังกาย สลายความเครียด แถมยังได้รับพลังแสงอาทิตย์ ในช่วงที่ออกมาปลูกออกมาดูแลรดน้ำอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก https://goodlifeupdate.com/healthy-body/170730.html

https://www.youtube.com/watch?v=HuYx8BcfHOg

https://www.ku.ac.th/e-magazine/sep51/know/know3.htm

https://health.mthai.com/howto/health-care/29439.html

https://health.kapook.com/view95236.html

ขอบคุณรูปภาพขิงจาก www.istockphoto.com

https://www.sanook.com/home/7969/