สวนผักดาดฟ้ามูลนิธิเพื่อเด็กพิการ

จำได้ว่า ครั้งแรกที่มีโอกาสได้ไปเยือนมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ ก็คือวันที่ได้รับเชิญไปร่วมวงแลกเปลี่ยนในงานสวนบำบัดที่มูลนิธิเพื่อเด็กพิการจัดขึ้น ครั้งนั้นคุณหมอประพจน์ เภตรากาศ ประธานมูลนิธิได้ชวนเราขึ้นไปดูพื้นที่บนดาดฟ้า พร้อมกับบอกว่าความตั้งใจว่าอยากทำสวนผักบนพื้นดาดฟ้าที่ว่างอยู่แห่งนี้ เผื่อจะได้ขายผักเป็นรายได้หมุนเวียนเข้ามูลนิธิบ้าง เราจึงได้เอ่ยปากชวนให้เจ้าหน้าที่ที่สนใจทำสวนผักมาร่วมกิจกรรมทัวร์สวนผักดาดฟ้า เขียว กินได้ กับโครงการสวนผักคนเมือง ซึ่งจัดไปทัวร์ และเรียนรู้เทคนิคการทำสวนผักดาดฟ้ากับทางสำนักงานเขตหลักสี่

หลังจากกลับจากทัวร์ไม่นาน เรามีโอกาสได้แวะไปมูลนิธิเพื่อเด็กพิการอีกครั้ง ก็อดประทับใจกับความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นบนพื้นที่แห่งนี้ไม่ได้ แม้ว่าคุณเคเจ้าหน้าที่หลักที่เป็นกำลังสำคัญในการทำสวนดาดฟ้านี้จะไม่ได้ไปร่วมทัวร์เอง เเต่ก็ได้เรียนรู้จากเพื่อนตัวเเทนที่ได้ไปร่วมทัวร์มา เเละนำความรู้ พร้อมกับลงแรงกายแรงใจของตัวเอง มาก่อร่างสร้างแปลง และลงมือปลูกผักให้เติบโตงอกงามได้อย่างน่าชื่นใจ

สวนผักดาดฟ้าแห่งนี้ ค่อยๆเติบโตจากเล็กๆเพียงไม่กี่แปลง จนตอนนี้ขยายพื้นที่จนเกือบเต็มดาดฟ้า และสามารถเก็บผลผลิตปลอดภัยจากสารเคมี ขายให้กับทั้งผู้ปกครองเด็กพิการที่มาทำกิจกรรมฟื้นฟูที่มูลนิธิ โดยคุณเคจะตัดผักสดๆในแปลงไว้ให้ตามออเดอร์ของผู้ปกครอง และหากมีผลผลิตมาก ก็จะนำไปตั้งโต๊ะหน้ามูลนิธิขายให้กับคนในชุมชนใกล้เคียงด้วย

คุณเคเล่าถึงแรงใจสำคัญ ที่ทำให้เขามุ่งมั่นตั้งใจทำสวนผักดาดฟ้าแห่งนี้ ว่า เขาเห็นเด็กพิการที่มาที่มูลนิธิป่วย แล้วก็ต้องกินอาหารทางสายยาง ก็เลยอยากปลูกผักแบบไม่ใช้สารเคมีให้เด็กพิการได้กิน เพราะว่าอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมีอาจมีผลในการทำลายการทำงานของสมองเด็กพิการได้

ที่สำคัญคุณเคยังบอกด้วยว่า เวลาทำงานอยู่ในสวนผักนั้น เขารู้สึกมีความสุขมาก มากกว่าเวลาต้องนั่งทำงานอยู่ในห้องมาก

สำหรับแผนในอนาคต คุณเคบอกว่า ตั้งใจจะขยายพื้นที่ปลูกจากบนดาดฟ้า ลงไปปลูกผักไว้ที่พื้นที่สวนบำบัดด้านล่าง เพื่อให้เด็กพิการที่มาทำกิจกรรมสวนบำบัด ได้มีโอกาสสัมผัส และรู้จักกับพืชผักที่กินได้ด้วย

ขอแสดงความยินดีและเป็นกำลังใจกับสวนผักดาดฟ้ามูลนิธิเพื่อเด็กพิการ เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ในการประกวดดาดฟ้า เขียว กินได้ นะคะ