เลิกสะสมความรู้ หัดที่จะรัก @ดาดฟ้า เขียว กินได้ บ้านคุณศุภรัตน์


เลิกสะสมความรู้ และหัดที่จะรักอะไรซะบ้าง
 นี่คือสิ่งที่คุณศุภรัตน์ จิระพงศ์วัฒนา อีกหนึ่งผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการประกวดดาดฟ้า เขียว กินได้ กล่าว พร้อมกับเล่าประสบการณ์ของตัวเองในการเปลี่ยนพื้นที่ดาดฟ้า ให้เป็นพื้นที่สีเขียวกินได้ ให้ฟังว่า  เดิมทีตัวเองเป็นคนไม่ได้สนใจเรื่องการปลูกต้นไม้เลย ขนาดมีต้นไม้กระถางปลูกอยู่หน้าห้องทำงาน ผ่านไปมาก็ไม่เคยสนใจ ไม่เคยรดน้ำ วิชาความรู้เรื่องนี้ก็ไม่มี จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ตัวเองป่วย ต้องผ่าตัด และพักฟื้นเป็นเวลา 1 เดือน ก็ไม่รู้จะทำอะไร เลยลุกขึ้นมาทำสวนจนหลงรัก ตอนแรกก็ปลูกพวกต้นไม้ดอกไม้เยอะ จนแม่ชวนว่า “ปลูกต้นไม้ดอกไม้เยอะแล้ว น่าจะปลูกผักบ้าง” ก็เลยมองหาพื้นที่ดาดฟ้าชั้น 6 ที่ยังทิ้งว่างอยู่ มาปลูกผัก

แม้จะเป็นเรื่องใหม่ ที่ตัวเองไม่มีความรู้ แต่แทนที่คุณศุภรัตน์จะตั้งหน้าตั้งตาอ่าน หรือไปอบรมสะสมความรู้ เหมือนที่คนส่วนใหญ่มักทำ คุณศุภรัตน์กลับเลือกที่จะทดลอง ลงมือทำ และค่อยๆเรียนรู้ด้วยตัวเอง อาจจะอ่านวิธีตามซอง ตามหนังสือนิดหน่อย หรือบางทีก็ถามแม่ค้าต้นไม้ แล้วนำมาทดลองทำ จนสวนผักเติบโต และงอกงาม ด้วยความรัก และน้ำพักน้ำแรงของเธอ

จะว่าไปเเล้ว กว่าจะมาเป็นสวนผักดาดฟ้าที่เห็นอยู่นี้ คุณศุภรัตน์ก็ต้องใช้เวลาในการลองผิดลองถูกอยู่พอสมควร เริ่มต้นจากการก้าวข้าวความคิดเดิมๆที่ กลัวว่าหลังคาที่มุงไว้บนดาดฟ้าจะเป็นอุปสรรคในการปลูกผัก เเต่เมื่อได้สังเกตทิศทางของเเดดเเล้ว ก็ได้เรียนรู้ว่า สามารถปลูกผักได้ โดยจัดตำเเหน่งของผักที่ต้องการเเดดมากเเละเเดดน้อยให้เหมาะกับทิศทางของ เเสงเเดดที่ส่องถึง นอกจากนี้ก็ยังค่อยๆเรียนรู้วิธีการเผชิญกับศัตรูพืชอย่างกระรอก ที่ชอบเเวะเวียนมาเยี่ยมสวนอยู่เสมอ ด้วยการนำไม้มาปักล้อมรอบเเปลงไว้

คุณศุภรัตน์เขียนเรื่องส่งมาแบ่งปันว่า“‘สุขภาพแข็งแรง ความใส่ใจต่อสิ่งเล็กๆ รอบตัว รวมถึงการมีสมาธิมากขึ้น’ทั้งหมดเป็นสิ่งดีๆ ที่ได้จากการปลูกผัก อย่างแรกเป็นที่เข้าใจได้ชัดเจนอยู่แล้วเพราะการมีสุขภาพดีส่วนหนึ่งเกิดจาก การกินอาหารสะอาดที่ไม่มีสารเคมีปน ปุ๋ยที่ฉันใช้เป็นปุ๋ยจากมูลสัตว์ เปลือกถั่วลิสงและน้ำหมักชีวภาพเท่านั้น ส่วนเรื่องการใส่ใจนั้น ฉันคิดว่าการปลูกผักบนดาดฟ้าเหมือนการทำงานในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติที่มีปัจจัยให้ต้องคอยเฝ้าสังเกตมากมาย โดยเฉพาะแสงแดดที่มีการเปลี่ยนแปลงทิศทางทุกฤดูกาล และด้วยความตั้งใจและจดจ่อต่อการย้ายต้นกล้าเล็กๆ เป็นประจำ ทำให้ความมีสมาธินั้นต่อเนื่องไปถึงการทำสิ่งอื่นๆอย่างมุ่งมั่นไปด้วย

วันที่เราไปเยี่ยมสวนผักดาดฟ้าแห่งนี้คุณศุภรัตน์ยังเล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่า การทำสวนผักนี้ทำให้ขี้บ่นน้อยลง หันมาพูดคุยกับต้นไม้แทน อีกทั้งยังทำให้รู้จักรอคอยมากขึ้น และได้เรียนรู้ว่าคนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เหมือนผักปลูก 2 ต้น ต้นโตหนึ่งโตดี อีกต้นนึง ไม่โต แต่พอย้ายไปปลูกที่อื่น ก็โตดีขึ้นมา เหมือนคนเรามันชอบสิ่งแวดล้อมไม่เหมือนกัน ก็นำมาปรับใช้กับชีวิตได้ ที่สำคัญคุณศุภรัตน์ยังบอกว่า ทุกครั้งที่ได้สัมผัสดิน จะรู้สึกได้ถึงพลังจากธรรมชาติ ซึ่งทำให้รู้สึกหลงรักการทำสวนและการได้สัมผัสดินมาก

 

นอกจากประโยชน์ต่างๆที่ตัวเองได้รับแล้ว จุดเริ่มต้นของความรักและลงมือทำสวนแห่งนี้ ยังเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่นด้วย “ด้วยระยะเวลาประมาณ ๖ เดือนที่ฉันทดลองปลูกผักบนดาดฟ้านั้น อาจยังไม่นานพอที่จะทำให้ฉันสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดีเท่าที่ควร เนื่องจากประสบการณ์ยังไม่เพียงพอและมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีก หลายอย่าง แต่ผลพลอยได้ที่ฉันภูมิใจกว่าการเก็บพืชผักที่ฉันลงแรงปลูกไปคือ การที่ทำให้คนรอบข้างเริ่มมีความสนใจธรรมชาติมากขึ้น เดี๋ยวนี้เวลามีเพื่อนหรือคนรู้จักมาบ้าน ทุกคนสนใจที่จะเดินชมสวนผักบนดาดฟ้ามากกว่าจะนั่งคุยกันอยู่แต่ในห้องแอร์ เหมือนเมื่อก่อน แม้แต่หลานๆ ของฉันที่เวลาปกติจะชอบรบเร้าขอเล่นเกม แต่ตั้งแต่มีสวนผักแล้ว เวลาเด็กๆ มาเยี่ยมคุณยายที่บ้าน จะเปลี่ยนเป็นขอขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อดูสวนผักของป้าและสอบถามวิธีปลูกผักแต่ ละอย่างด้วยความอยากรู้แทน 

ไม่เพียงคนนอกบ้านจะมีความสุข กับสวนผักลอยฟ้าแล้ว แม่บ้านที่ยามปกติมีหน้าที่ทำความสะอาดบ้านอย่างเดียว แต่เมื่อใดที่ฉันต้องไปไกลบ้านหลายวัน เธอคนนี้จะมีหน้าที่เป็นคนสวนให้ด้วยอีกหนึ่งตำแหน่ง เธอเล่าว่าตอนอยู่บ้านตัวเองไม่ปลูกอะไรเลย เพราะไม่ชอบดูแลและรดน้ำต้นไม้พืชผักอะไรทั้งนั้น แต่หลังจากได้รับหน้าที่พิเศษไปไม่กี่ครั้ง เธอบอกว่าถ้ากลับไปบ้านแล้วจะปลูกต้นไม้เยอะๆ และตอนนี้ทุกครั้งที่ฉันกลับจากเที่ยวนอกบ้านหลายวัน สิ่งแรกที่เธอทำเมื่อเราเจอกันคือการรายงานผลของการดูแลผักว่า “ตอนพี่ไม่อยู่ หนูดูแลสวนให้อย่างดี ผักโตขึ้นเยอะกว่าตอนก่อนพี่ไปนะ” แล้วเธอก็ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในฝีมือตัวเอง…นี่เป็นอีกเรื่องที่อาจจะดู ว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความสุขและยิ้มได้เสมอเมื่อนึกถึง 

แม้ว่าจะยังไม่ถึงขนาด ที่จะโน้มน้าวให้ใครๆ หันมาเปลี่ยนพื้นที่บ้านเพื่อการปลูกผักได้ทันที แต่การปรับความคิดให้เกิดความสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติมากขึ้นนั้น นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้พอสมควร และฉันก็หวังในความก้าวหน้าในการที่จะให้คนอื่นๆ ลองมาปลูกผักในเวลาต่อไปด้วยเช่นกัน”คุณศุภรัตน์เล่าสู่กันฟัง

ภาพความเติบโตงอกงามของสวนผักดาดฟ้าแห่งนี้ คงเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่า เมื่อคนเราเกิดความรักที่จะทำสิ่งใดอย่างแท้จริงแล้ว ความสำเร็จคงไม่ไกลเกินจริง

นอกจากสวนผักดาดฟ้าเเล้ว บนตึกสูงกลางเมืองเเห่งนี้ ยังมีสวนไม้ดอกไม้ประดับสวยๆบนระเบียง ไว้ให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจด้วยนะคะ ที่น่าทุึ่งคือ คุณศุภรัตน์เป็นคนออกเเบบ เเละลงมือปลูกเอง ด้วยความรักจริงๆ เรียกว่ามีทั้งสวนสวย เเละสวนกินได้เลยทีเดียว