อาณาจักรสวนผักหรรษา @ ชุมชนป้อมหก

สำหรับชุมชนป้อมหก เทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนแออัดริมทางรถไฟ ที่คนมีรายได้น้อยใช้เป็นที่พักพิง อาจกล่าวได้ว่าพื้นที่สวนผักที่เติบโตขึ้นในชุมชน เป็นเหมือนพื้นที่ในฝันที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ช่วยกันสร้างขึ้นจนสำเร็จ และกลายเป็นอาณาจักรสวนผักหรรษา ที่เป็นทั้งพื้นที่สีเขียวกินได้ของชุมชน เป็นพื้นที่เล่น และพื้นที่เรียนรู้ หรือทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆมากมาย โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ซึ่งยากจะหาพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเล่นและเรียนรู้ได้ในชุมชน

“อาณาจักรสวนผักหรรษา เป็นเรื่องราวแห่งความสุขเล็กๆที่เกิดจากความประทับใจจากการทำงานร่วมกัน เริ่มจากความทุกข์ท้อ สิ้นหวังเนื่องจากพื้นที่กลางที่ทีมงานเข้าไปติดต่อขออนุเคราะห์พื้นที่ทำสวนผัก ถูกเจ้าของปฏิเสธเนื่องจากต้องการขายที่ ทำให้ทีมงานเศร้าใจ หมดหวัง แต่เรากลับมาทบทวนกันอีกที  โดยพาน้องๆและครูอาสาเดินสำรวจพื้นที่ น้องๆก็ช่วยกันออกความคิดเห็นที่นั่นบ้างที่นี่บ้าง แต่ไม่เป็นผล แต่ระหว่างที่สำรวจเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของเด็กๆ ทำให้ครูซาร่า พี่บี และทีมงานท้อไม่ได้  เพราะเด็กๆมีความหวังว่าอยากจะมีสถานที่ ที่ปลอดภัยเพื่อเรียนรู้การปลูกผักร่วมกัน สุดท้าย จึงได้ที่ทำโครงการในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จาก คุณ สมถวิล ศรีทวีป”

เมื่อได้ที่ทางแล้ว พวกเขาทั้งเด็กและผู้ใหญ่จึงช่วยกันเปลี่ยนมุมมืด ที่ตอนปรับพื้นที่เต็มด้วยกระบอกเข็มฉีดยา ให้กลายเป็นมุมสว่าง ที่มีชีวิตชีวา และเป็นประโยชน์สำหรับผู้คนในชุมชน

อาณาจักรสวนผักหรรษาแห่งนี้ ไม่ได้เพียงชวนเด็กๆมาเรียนรู้ และลงมือช่วยกันปลูกผักเท่านั้น แต่คุณบี หรือเปรมวดี ผอมเอียด คนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจ พร้อมทั้งบัณฑิตอาสา และคุณลุงคุณป้าในชุมชนก็ได้ช่วยกันออกแบบกิจกรรม สร้างการเรียนรู้ให้เด็กๆ อย่างหลากหลายและต่อเนื่อง

ตัวอย่างกิจกรรมที่ทำก็มีตั้งแต่หนึ่งวันฉันกินอะไรที่ช่วยให้เด็กรู้จักและเท่าทันกับอาหารที่กินอยู่มากขึ้น

กิจกรรมสำรวจและสร้างอาณาจักรหรรษาที่เด็กๆได้ไปเรียนรู้เรื่องการปลูกผักจากสวนผักที่อื่นด้วย และนำความรู้มาช่วยกันสร้างอาณาจักรสวนผักของตัวเอง พวกเขาช่วยกันดูแลรดน้ำ จนพืชผักเติบโต ได้ผลผลิตให้เก็บเกี่ยว

เมื่อวันเก็บเกี่ยวมาถึง คุณบีและทีมก็ช่วยกันทำกิจกรรม ส่งผัก ส่งยิ้มซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชวนเด็กๆไปทำความรู้จัก พูดคุย ถามไถ่ คุณลุงคุณป้า คุณตาคุณยาย รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการที่อยู่ในชุมชน พร้อมทั้งนำผักที่ตัวเองช่วยกันปลูกติดไม้ติดมือไปฝาก

เด็กๆยังได้เรียนรู้เรื่องการทำอาหารจากผลผลิตจากแปลง ช่วยกันปรุงเป็นเมนูรักจากสวนผักหรรษา ชื่อเมนูก็น่าสนใจ มีทั้งข้าวสวยโซล่าเซลล์ ผัดผักบุ้งเขียวขจี และไข่เจียวพระอาทิตย์ คุณบีเล่าให้ฟังว่า “เด็กๆรู้สึกสนุก และดีใจที่ได้กินผักที่ตัวเองปลูก มีเด็กคนหนึ่งที่มักจะซนมาก แต่พอได้มาช่วยทำกับข้าวในวันนั้น ก็นิ่งมาก ทำอาหารออกมาได้น่ากินด้วย”

เมื่อสอนทำแล้ว คราวนี้ก็มีการจัดประกวดเชฟกระทะเหล็กรุ่นจิ๋ว ให้เด็กๆได้รวมกลุ่มช่วยกันทำ แสดงความสามารถและฝีมือในการปรุงของตัวเองออกมา

วันที่มีโอกาสไปเยี่ยมอาณาจักรสวนผักหรรษาแห่งนี้ นอกจากจะได้พบกับรอยยิ้ม ความเบิกบานของเด็กๆ ช่วงเวลาที่อยู่ในสวนแล้ว ยังได้พบกับหัวใจที่งดงามและยิ่งใหญ่ของคนทำงาน ที่พวกเขาช่วยกันทำเพื่อชุมชน และเด็กๆ ด้วยใจอาสา

เราพบกับป้าพร ผู้เสียสละพื้นที่บ้านของตัวเอง แบ่งให้เป็นโรงเรียนบ้านป้าพร สำหรับใช้เป็นที่เรียนรู้และทำกิจกรรมของเด็กๆ ด้วยความหวังว่าอยากจะให้เด็กๆเติบโตขึ้นไปในทางที่ดีกว่าที่เคยเป็นมาในรุ่นก่อนๆ

ป้าพรไม่เพียงเสียสละพื้นที่ เสียสละเวลามาช่วยทำเรื่องสวนผักเท่านั้น แต่ยังเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องการจัดการขยะในชุมชน ด้วยการลุกขึ้นกวาดขยะที่ผู้อื่นทิ้งกันเกลื่อนให้เห็นเป็นตัวอย่าง ลุกขึ้นเดินแจกถุงขยะ และตัดเชือกสำหรับมัดปากถุงขยะแจก   จนนำไปสู่การเกิดธนาคารขยะ สวัสดิการธนาคารขยะ และกองทุนขยะสร้างสุขในชุมชนฃ

เราพบคุณบีคนรุ่นใหม่ที่แม้จะเรียนจบสูง แต่ก็กลับไปอยู่บ้าน และช่วยทำงานชุมชนอย่างเข้มแข็ง ด้วยความหวังอยากเห็นชาวบ้านมีความสุข ยิ้มได้ และให้เด็กได้อยู่ในที่ปลอดภัย วันนั้นเรายังพบหัวใจอันยิ่งใหญ่ของผู้คนอีกหลายคนที่มารวมตัวกัน ช่วยกันทำสิ่งดีๆเพื่อชุมชน

พลังเล็กๆ จากคนมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ กลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชุมชนในหลายด้าน ทั้งเรื่องการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ซึ่งการทำกิจกรรมกับเด็กก็ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้พ่อแม่สนใจมาเรียนรู้ และทำงานเพื่อชุมชนมากขึ้น เด็กๆหลายคนก็หันมากินผักกันมากขึ้น มีอาหารที่ดีมีประโยชน์ที่ปลูกเองในชุมชนไว้กิน มีพื้นที่สีเขียวให้เด็กวิ่งเล่น ให้ผู้คนได้ผ่อนคลาย

“วันนี้สวนผักเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตไปแล้ว 12 เดือนที่ผ่านมา พวกเราได้ทั้งหยาดเหงื่อ แรงกาย และใช้หัวใจทำสิ่งดีๆด้วยกัน คุณภาพชีวิตของชาวชุมชนป้อมหกดีขึ้น เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของสวนผัก เด็กๆได้เรียนรู้ทักษะชีวิตผ่านเรื่องราวของผักมากขึ้น เกิดความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมบ้านเกิดที่อยู่อาศัยมากขึ้น ความสุขที่งดงาม เบ่งบานแล้วที่อาณาจักรสวนผักหรรษา ชุมชนป้อมหก” คุณบีกล่าว