ทำสวนภาวนา

พอพูดถึงเรื่องภาวนา เจริญสติ ฝึกสมาธิ หลายคนอาจเมินหน้าหนี คิดว่าต้องนั่งหลับตาอยู่นิ่งๆเพียงอย่างเดียว แท้จริงแล้ว เราสามารถฝึกสติผ่านกิจกรรมต่างๆที่เราทำในชีวิตประจำวันได้ และหนึ่งในกิจกรรมที่ทั้งช่วยฝึกสติ ทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติได้อย่างดีก็คือการทำสวน

แน่นอนว่าหัวใจหลักของการทำสวนภาวนาก็คือ การมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ให้รู้สึกตัวอยู่ตลอด หากมีความคิดจรเข้ามา ก็ให้รับรู้ และปล่อยมันไป โดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พัวพัน ตัดสินและกลับมาอยู่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่

จะว่าไป หลายคนก็คงจะพอรู้มาอยู่บ้าง แต่ครั้นพออยู่ในสถานการณ์จริง เราก็มักเผลอคิด และทำทุกอย่างไปอย่างไม่รู้สึกตัวในแต่ละขณะจริงๆ ทุกที เมื่อเป็นอย่างนี้ การมีขั้นตอน มีรายละเอียดในการนำไปฝึกบ้าง ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้เกิดสติได้มากขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย

ขอแบ่งปันขั้นตอนหรือเทคนิคในการทำสวนภาวนาให้นำไปทดลองปฏิบัติกันสักเล็กน้อยนะคะ

  • อันดับแรกเลย คือ ควรให้ช่วงเวลาที่อยู่ในสวน เป็นไปเพื่อการใช้เวลาในสวนจริงๆ วางโทรศัพท์ให้ห่างไกลออกไป เช่นเดียวกับเสียงเพลง หรือเสียงโทรทัศน์ ที่บางคนอาจจะชอบเปิดคลอเป็นเพื่อนไปด้วย ขอให้ปิดเสียงเหล่านั้นลง และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ฟังเสียงรอบกายภายในสวนมากขึ้น
  • หากเป็นไปได้ ก่อนออกไปทำสวน อาจหาเวลาทำสมาธิตามลมหายใจสั้นๆ สัก 5 นาที เป็นเหมือนการตั้งหลัก ทำจิตใจให้สงบ ก่อนจะเริ่มทำอะไร หรือบางคนอาจหามุมเหมาะๆในสวน นั่งหรือยืนเงียบๆอยู่กับตัวเอง ตามลมหายใจเข้า-ออก สักพักก็ได้
  • จากนั้นเมื่อเราอยู่ในสวน ลองเปิดสัมผัสส่วนต่างๆของร่างกายรับรู้สิ่งต่างๆรอบตัว อาจจะเริ่มทีละอย่าง จากหู ลองฟังว่าได้ยินเสียงอะไรบ้าง มาที่จมูก ลองรับรู้ว่าขณะนี้เราได้กลิ่นอะไรบ้าง และมาที่ผิวสัมผัสทางกาย ลองรับรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไรบ้าง เวลามีลมพัดมากระทบที่หน้า คอ แขน หรือขา หรือว่าที่เราโดนแสงแดดมากระทบที่ผิวกาย เรารู้สึกอย่างไร
  • คราวนี้ก็เริ่มลงมือทำสวนกันได้ ไม่ว่าจะรดน้ำ พรวนดิน ย้ายกล้า ปลูกผัก ถอนวัชพืช ขอให้ทุกๆขณะที่เราทำ เรามีสติอยู่กับสิ่งที่ทำ รับรู้ถึงมือที่สัมผัส เคลื่อนไหว เท้าที่ก้าว ความร้อน ความเย็น ความแข็ง ความนุ่ม เสียง และกลิ่นต่างๆที่เกิดขึ้น ค่อยๆรับรู้ไปทีละอย่างในแต่ละขณะ
  • สำคัญคือ หากเผลอคิด ก็ให้รับรู้ และกลับมาอยู่กับสิ่งที่ทำใหม่ อย่าได้โกรธ โทษ ตัวเอง เพราะแทนที่จะรู้สึกผ่อนคลาย ก็จะกลายเป็นตึงเครียดเอาง่ายๆ เผลอไปก็เริ่มใหม่ เพราะเรากำลังฝึก ฝึก ฝึก หัวใจสำคัญอีกอย่างก็คือ การทำซ้ำๆ จนชำนาญขึ้นเรื่อยๆ
  • เมื่อเราเริ่มรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ อยู่กับปัจจุบันขณะตรงนั้นอย่างแท้จริง เราอาจจะลองสื่อสาร เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ พืชผัก รอบตัวที่เราปลูก บางคนอาจจะขอบคุณ บางคนอาจจะมีคำถาม บางคนอาจจะสนทนาพูดคุย ทักทาย สุดแท้แต่ใจจะปรารถนา ฟังหรืออ่านเฉยๆอาจจะดูตลก แต่ถ้าได้ลองทำ คุณจะพบกับความมหัศจรรย์บางอย่าง ซึ่งแต่ละคนก็อาจจะมีประสบการณ์ต่างกันไปนะคะ

เป็นวิธีการสั้นๆ ง่ายๆ ที่อยากชวนให้ลองทำกันดูค่ะ

บางทีคุณอาจจะพบว่าระหว่างทางแต่ละขณะที่ทำสวนนั้นไม่ใช่เวลาที่เสียไป แต่เป็นเวลาที่มีคุณค่าและมีความหมายต่อชีวิตมากมาย

ใครที่กำลังรู้สึกเหนื่อยล้า หงอยเหงา เศร้า ซึม ลองออกไปทำสวนภาวนาค่ะ บางทีความสุข สงบ เบิกบาน ในหัวใจอาจเติบโต และงอกงามให้สวนเล็กๆของคุณก็เป็นได้นะคะ

และขอบอกว่า ถึงจะเป็นสวนเดิม กิจกรรมเดิม แต่ก็มีสิ่งใหม่ๆให้สัมผัส รับรู้อยู่ตลอด เช่นเดียวกับตัวเราที่เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ

พอเราค่อยๆทำสวนไป เราก็จะเข้าใจชีวิต เข้าใจธรรมชาติ เข้าใจตัวเอง และผู้อื่นมากขึ้นเรื่อยๆด้วย

ได้ประโยชน์หลายสถาน หากลงมือทำนะคะ