อำนวย นิยมไพร (กวิ๊) นักปรับเปลี่ยน ผู้เชื่อมร้อยวิถีเก่ากับวิถีใหม่เข้าด้วยกัน

อำนวย นิยมไพร หรือ กวิ๊ เป็นคนปกากะญอ ที่อาศัยอยู่ในชุมชนบ้านหนองเต่า อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่  มานานกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นช่วงยุคสมัยที่ชุมชนมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัปทานป่าไม้และเหมืองแร่ ที่ทำให้ชุมชนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เรื่องทรัพยากร และที่อยู่อาศัยของตน จากการถูกมองว่าเป็นถูกบุกรุกป่า นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เข้ามาสนับสนุนส่งเสริมเกษตรกรรมแผนใหม่ ให้คนในชุมชนปลูกพืชเมืองหนาว ส่งผลให้วิถีการผลิตเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงเรื่องประเพณี วัฒนธรรม ความคิด ความเชื่อ ค่านิยมต่างๆก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วย

กวิ๊เล่าว่า “เมื่อก่อนปู่เป็นพ่อหลวง พอมีพืชเศรษฐกิจเข้ามาส่งเสริม ก็จะได้รับก่อน และเราก็ไปช่วยทำบ้าง แต่เราก็พบว่า การปลูกพืชสมัยใหม่นี้ ต้องใช้ปุ๋ย ใช้สารเคมีเยอะมาก จากเดิมที่เราพูดถึงเรื่องเกษตรยั่งยืน พะตีจอนิ ก็พูดถึงเรื่องป่า 7 ชั้น เป็นการอยู่ร่วมกันของคนกับป่า แต่มาถึงยุคปัจจุบัน เรากลับมาทำเกษตรที่ทำลายทรัพยากร ที่สำคัญจากเดิมที่เราพึ่งตนเองด้านอาหารได้ ตอนนี้สิ่งที่ปลูกกลับไม่ได้ใช่สิ่งที่ตัวเองกินเลย”

จากสภาพปัญหาและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้กวิ๊ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่เกิดแรงบันดาลใจ อยากจะปรับเปลี่ยน เชื่อมโยง ผสมผสานวิถีใหม่ กับวิถีดั้งเดิมของชาวปกากะญอให้เข้ากันมากขึ้น แทนที่จะทำเกษตรเคมี เขาลองทำเกษตรอินทรีย์ โดยไม่ใช้พื้นที่ทั้งหมดไปกับการปลูกพืชเมืองหนาวสมัยใหม่ แต่แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับทำนาปลูกข้าวอินทรีย์ ส่วนหนึ่งปลูกผัก ส่วนหนึ่งปลูกกาแฟ และพืชเมืองหนาวที่มีอยู่แล้วในสวน อย่างลูกพลับ อโวคาโด้ และบ๊วย

ที่น่าสนใจคือ เขาใช้กาแฟเป็นตัวเชื่อมโยงโลกสมัยใหม่ กับโลกสมัยเก่าตามวิถีชีวิตวัฒนธรรมดั้งเดิมของปกากะญอเข้าด้วยกัน ทำให้มีคนเมืองทั้งในและนอกประเทศ เข้าไปชิมกาแฟ เข้าไปเรียนรู้วิถีชีวิต และท่องเที่ยวในหมู่บ้านจำนวนไม่น้อย

นอกจากนี้เขายังเรียนรู้ และลองแปรรูป ผลผลิตต่างๆที่เขาปลูก อย่างลูกพลับ หรือบ๊วย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆขึ้นมา เป็นเพิ่มมูลค่าสินค้าไปในตัว  แถมเขายังคิดถึงเรื่องการสร้างสรรค์เมนูจากพืชผักที่ปลูก เพื่อให้มีอาหารที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของตัวเอง และคนในชุมชนมากขึ้นด้วย

“เราอยากให้ป่าอยู่ได้ ทรัพยากรอยู่ได้ ระบบดิน ระบบน้ำดี ระบบอาหารในชุมชนดี คนในชุมชนก็มีสุขภาพดี มีความสุข ไม่ใช่เน้นแต่ปลูกขายๆ แล้วคนทำก็เป็นหนี้ เป็นมะเร็ง เพราะใช้สารเคมี แล้วก็ต้องซื้ออาหารที่ปนเปื้อนสารเคมีกิน ไม่ได้ปลูกเองเหมือนเมื่อก่อน

กวิ๊มีความฝันว่าอยากจะออกแบบ และทำสวนเกษตรผสมผสานที่บ้านตัวเอง ทำนา ปลูกผัก เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ อย่างครบวงจร แล้วก็ทำห้องครัวเล็กๆที่เป็นพื้นที่เรียนรู้ ที่คนเข้ามานั่งพัก จิบกาแฟ เรียนรู้เรื่องการทำอาหาร การทำกาแฟ รวมถึงเรื่องวิถีชีวิต การทำเกษตรอินทรีย์ และการค้าที่เป็นธรรม

เขาบอกว่าเขาอยากทำให้ที่บ้านเป็นตัวอย่าง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ในชุมชนได้สนใจกลับมาทำเกษตรอินทรีย์ ช่วยอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรที่มีอยู่  และสืบสานวิถี ประเพณี วัฒนธรรมของชาวปกากะญอ มากขึ้น แทนที่จะออกไปทำงานนอกหมู่บ้าน คิดจะไปใช้ชีวิตในเมือง และขายที่ดินที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษไปอย่างน่าเสียดาย