มงคล เหล่ามาลา (อึ่ง) นักวางแผน ผู้คิดอย่างเป็นระบบก่อนลงมือทำ

มงคล เหล่ามาลา หรือ อึ่ง อายุ 36 ปี เขาตั้งใจเรียนจนจบ ปวส. ที่วิทยาลัยกาฬสินธุ์ เอกประมงได้ทำงานในบริษัทใหญ่ มีตำแหน่งถึงผู้ช่วยผู้จัดการซึ่งก็ได้เงินเดือนเกือบหกหลัก สุดท้ายเขาก็พบว่าตำแหน่งและเงินทองกลับไม่ตอบโจทย์ชีวิตที่เขาต้องการเลย

“ตอนนั้นรายได้สูง ลูกน้อยก็เริ่มเยอะ ปัญหามันวิ่งเข้ามามาก ทำให้เครียด ถ่ายก็ไม่ออก ไม่ริดสีดวง ไมเกรน ภูมิแพ้ กรดไหลย้อน กระเพาะ มนุษย์เงินเดือนที่มีโรคอะไรจะวิ่งเข้ามาสู่ตัวผม เริ่มรู้ตัวว่าสิ่งที่เค้าพูดๆกันว่ามีรายได้เยอะ เป็นเจ้าคนนายคนจะทำให้มีความสุขมันไม่ใช่”

เขาเริ่มหาที่ดินที่ชอบ มีแหล่งน้ำ และก็เริ่มสั่งต้นไม้มาปลูกไว้ในสวน โดยใช้ความรู้ที่ได้ศึกษาและไปเรียนรู้ตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ มาทำ เขาเริ่มจากการเป็นเกษตรกรวันหยุด ก่อนที่จะลาออกจากงานมาทำเกษตรอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะวางแผนทุกอย่างไว้อย่างดี แต่เมื่อออกมาทำจริง ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่วาดหวังไว้ทั้งหมด อึ่งล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายหน

“หนึ่งปีจับเรื่องปลูกไผ่ เขาบอกว่าปลูกไผ่ตัวนี้ออกหน่อดี ออกหน่อทั้งปี ก็เอามาปลูก แต่มันไม่ออกหน่อให้ ปลูกกล้วยหอมทองก็ไม่โต ปลูก 2 ปี ได้กินแค่ 4 หวี ปลูกมะนาวแป้น ก็มีแต่ใบ หรือไม่ก็ใบโกร๋นหมด เลี้ยงปลาหมอ ปลาดุก ก็ขาดทุน ขนาดจบเอกประมง ทดลองปลูกข้าวหลายสายพันธุ์ ทั้งหอมนิล ไรซ์เบอร์รี่ สินเหล็ก ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวลืมผัว ก็ลองแล้ว แต่พ่อแม่ปลูกได้เป็นร้อยกระสอบ ผมปลูกได้แค่ 3-4 กระสอบ แล้วก็มาเลี้ยงเป็ด ก็เจอปัญหาหมามาไล่กัด แล้วก็มาลองเพาะเห็ด ก็พบว่าต้องดูแลเยอะ ไม่ตอบโจทย์”

แม้จะล้มเหลว เผชิญปัญหามากมาย เสียเงินเสียทองเสียเวลาไปมาก แต่อึ่งก็ไม่ย่อท้อ เขารู้แล้วว่าชีวิตในบริษัทไม่ใช่ทางที่เขาต้องการ เขาจึงเดินหน้า ศึกษาหาความรู้ พัฒนาตัวเองให้มากขึ้น คราวนี้เขามีเป้าหมายว่า ใครที่ทำเกษตรแล้วประสบความสำเร็จ ทำได้ อยู่รอด มีกำไร เป็นเกษตรกรที่มีอิสรภาพ ตอบโจทย์ทั้งรายได้ สุขภาพ และเวลา เขาจะขอไปกราบและฝากตัวเป็นศิษย์ อาจารย์ทอง ธรรมดา ที่ อำเภอเพชรพิมาย คืออาจารย์ที่เขาเลือกไปขอฝากตัวเป็นศิษย์ ไปช่วยอาจารย์ถอนหญ้า ตอนกิ่ง ทำงานในสวนอยู่ 1 เดือน โดยไม่เอาค่าตอบแทน

เขาเล่าให้ฟังถึงความรู้ที่อาจารย์ถ่ายทอดให้เขาฟังว่า หัวใจสำคัญที่จะทำให้ทำเกษตรสำเร็จคือ

  1. ต้องมีอุดมการณ์ เชื่อว่าทำเกษตรเป็นอาชีพที่ดีที่สุด ทำแล้วอยู่รอด ไม่จน สามารถร่ำรวยได้
  2. ต้องมีประสบการณ์ มีแต่ทฤษฎีไม่ได้ ต้องลงมือทำ และรู้จักการบริหารต้นทุน กำไร และโอกาสด้วย
  3. ต้องมีความรู้ มีวิชาการ ถึงจะอยู่รอด

นอกจากนี้ เขายังพูดถึงวิธีการทำเกษตรสวนทางที่เขาไปเรียนรู้จากอาจารย์มาให้ฟัง 3 ขั้นตอน คือ

  • ขั้นแรก ต้องทำเพื่อเรียนรู้ก่อน อาจจะปลูกสัก 5-10 ต้น เพื่อศึกษาดูแมลง ดูสภาพอากาศที่พืชชอบก่อน เน้นทำกินก่อน อย่าเพิ่งทำเยอะ
  • ขั้นที่สอง ทำให้ออกช่วงนอกฤดู จะได้ราคาดี
  • ขั้นที่สาม ต้องขายผลพลอยได้ อย่างเมล็ดพันธุ์ กิ่งพันธุ์ แปรรูป ซึ่งอาจารย์ก็ได้สอนอึ่งเรื่องการต่อยอด เพิ่มมูลค่าสินค้า เพาะกล้า ทำพันธุ์ขาย และกลายเป็นรายได้หลักของเขาในตอนนี้

พื้นที่ 9 ไร่ ที่เขาซื้อไว้ วันนี้เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ไม้นานาชนิดที่เขาปลูกผสมผสานไว้ ทั้งมะเดื่อ ฝรั่ง มัลเบอร์รี่ทั้งของไทยและของต่างประเทศ ฝรั่งหวานพิรุณ ฝรั่งกิมจู ไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง ไผ่ตงลืมแล้ง หมากเมา สะเดาทวาย ชะอมไร้หนาม มะม่วง รวมถึงกล้วยหลายสายพันธุ์และกลายเป็นสวนที่หลายคนรู้จักในชื่อว่า สวนเกษตรเพชรมงคล มหาสารคาม มีผู้สนใจแวะไปเยี่ยมเยือน ไปเรียนรู้ ไปชิมผลผลิตและไปขอซื้อพันธุ์มากมายมาย