โครงการสวน+ครัวฟางสวรรค์

“ไม่มีเวลา” ปัญหาสำคัญที่หลายคนมักยกขึ้นมาพูด โดยเฉพาะชีวิตคนเมืองที่ต้องรีบเร่งออกไปทำงานแต่เช้า กว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดค่ำ เรียกว่าแทบจะสะกดคำว่า “ว่าง” ไม่เป็น ถึงแม้จะมีวันหยุดบ้าง ก็รู้สึกอยากพักผ่อน ไม่อยากจะแบ่งเวลาไปทำอะไรแล้ว

แต่ท่ามกลางวิถีชีวิตในเมืองใหญ่ ที่เวลาแสนมีค่าเป็นเงินเป็นทอง ผู้คนนับวันจะบ่มเพาะความเห็นแก่ตัวมากยิ่งขึ้นทุกวันนั้น ก็ยังมีกลุ่มคนเล็กๆ ที่รวมตัวกันทำสิ่งดีๆ ด้วยจิตอาสา และพร้อมจะแบ่งปันทั้งแนวคิดและสิ่งดีๆ ที่ตนเองมีอยู่ไปสู่ผู้อื่นด้วยความเต็มใจ

“กลุ่มฟางสวรรค์” เป็นหนึ่งในกลุ่มคนเล็กๆ ที่ได้เกิดจากการรวมตัวของผู้ที่เคยเป็นนักกิจกรรมตัวยงในยามเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่เมื่อเรียนจบต่างก็แยกย้ายเดินตามเส้นทางทำหน้าที่การงานของตน จนถึงวันหนึ่งได้มีโอกาสพบเจอกัน จึงได้คิดร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมกันขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นในคราบของพนักงานบริษัท ที่สละวันหยุดมาทำกิจกรรมเพื่อสังคม อย่างไปทำความสะอาดวัด หรือไปทำอาหาร หรือทำกิจกรรมให้เด็กกำพร้าที่บ้านต่างๆ และโครงการสวน+ครัว ที่ตั้งใจจะร่วมมือกันลงมือปลูกผัก และช่วยกันขยายแนวคิดเรื่องการปลูกผักให้ไปสู่วงกว้างก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่พวกเขารวมตัวกันทำ

สำหรับสมาชิกของโครงการสวน+ครัวฟางสวรรค์นี้ นอกจากจะเป็นกลุ่มศิษย์เก่ารั้วเกษตรศาสตร์แล้ว ก็ยังมีพนักงานจากบริษัทโกลบอลพลาส ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณปริญญา กระจ่าง แกนนำของกลุ่ม รวมถึงเพื่อนบ้านในหมู่บ้านสิรินเฮาส์ที่คุณปริญญาอาศัยอยู่

สิ่งที่น่าสนใจและน่าประทับของโครงการนี้คงต้องยกให้ความมุ่งมั่นตั้งใจจริงของคุณปริญญา ที่ได้ไปขยายแนวคิดเรื่องการปลูกผัก โดยสอนให้หลายคนในบริษัทตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการปลูกผักไว้กินเอง ว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยทั้งเรื่องการพึ่งตนเอง และเป็นการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองได้ในตัว ทำให้หลายคนในบริษัทที่ไม่เคยสนใจใส่ใจเรื่องเหล่านี้มาก่อนเกิดความสนใจ และช่วยกันปลูกพืชผักสวนครัวหลายชนิดบนดาดฟ้าของบริษัท แม้จะมีพื้นที่ไม่มากนัก บางส่วนก็ปลูกแซมใต้กระถางต้นไม้ใหญ่ชนิดอื่น แต่ก็พอจะมีพืชผักให้ได้ชื่นชม และเก็บมาปรุงอาหารกลางวันร่วมกัน

ไม่เพียงที่ทำงานเท่านั้น คุณปริญญายังส่งเสริมให้เพื่อนร่วมงานในแผนกต่างๆ ลองนำกระถาง พร้อมดินและปุ๋ยกลับไปปลูกที่บ้านหรือที่ห้องเช่าที่ตัวเองอยู่ด้วย เรียกว่าใครสนใจบอกมา ป๋าจัดให้ โดยส่วนใหญ่แล้วคุณปริญญาก็จะแนะนำให้ปลูกผักง่ายๆ ที่ใช้บ่อย อย่างหัวหอม วอเตอร์เครส ขึ้นฉ่าย หรือผักบุ้ง นอกจากนี้ก็ใช้วิธีถามว่าชอบกินอะไร ก็จะให้เมล็ดพันธุ์และอุปกรณ์ต่างกลับไปลองปลูก พอใครปลูกขึ้นก็จะเอาผลผลิตมาโชว์กันที่ทำงาน เป็นวิธีการที่ดึงดูดคนที่ยังไม่ได้ลองทำได้อย่างดี เพราะมีหลายคนที่พอเริ่มเห็นเพื่อนๆ นำพืชผักมาแบ่งปันแลกเปลี่ยนกันก็เริ่มสนใจมาขอปลูกบ้าง หากไปปลูกแล้วมีปัญหาอะไร ก็จะนำมาคุยถามกัน

กิจกรรมเล็กๆ อย่างนี้ แต่สามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ คุณสุวพิชญ์ เพ็งประเสริฐ หรือคุณหมวย หนึ่งในพนักงานบริษัทที่มาเป็นเรียวแรงสำคัญของการดำเนินโครงการเล่าให้ฟังว่า “ตอนแรกตัวเองก็รู้สึกว่าบ้าหรือเปล่ามาชวนปลูกผัก แล้วคนให้ทุนก็บ้าหรือเปล่าที่อยู่ๆ ก็มาให้ทุนเราเฉยๆ คือคิดว่าของฟรีไม่มีในโลก แต่หลังจากได้ฟังแนวคิดที่คุณปริ๊นซ์หรือคุณปริญญาพยายามถ่ายทอด ก็เริ่มเห็นความสำคัญเรื่องการปลูกผักขึ้นมา แล้วก็เห็นความตั้งใจทำงานด้วยจิตอาสาของคุณปริ๊นซ์ก็เลยเป็นแรงบันดาลใจให้มาช่วยทั้งปลูกและทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งการปลูกผักที่เราทำนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ผลผลิตมากมายอะไร แต่ที่ได้มากๆ ก็คือเรื่องของ “ความสามัคคี” อย่างคนในบริษัทเมื่อก่อนก็ไม่ค่อยคุยกัน เวลาประชุมก็คอยแต่จะเขม่นกัน เดี๋ยวนี้บรรยากาศการทำงานดีขึ้นมาก ใครมาขอให้ช่วยทำอะไร ก็บอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ รู้สึกเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงกันมากขึ้น

นอกจากสร้างความสัมพันธ์ในองค์กรแล้ว คุณปริญญายังกลับมาสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้นในหมู่บ้านของตนเองด้วย โดยเริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ที่สนใจ เข้ามาถามไถ่ยามที่คุณปริญญาผสมดิน ผสมปุ๋ย ทำแปลงผักที่หน้าบ้านตัวเองก่อน เรียกว่าใครอยากลองทำ ก็สามารถมาขอความรู้ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ ทั้งดิน ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ต่างๆ ที่บ้านคุณปริญญาได้ ไม่เพียงเท่านั้น บางบ้าน คุณปริญญายังถึงกับลงแรงช่วยทำแปลง ขนดิน ขนปุ๋ยใส่รถกระบะไปช่วยปลูกถึงบ้าน วิธีนี้ถือว่าเป็นการช่วยออกเดินก้าวแรกก่อนจะก้าวต่อด้วยตัวเองต่อไปได้อย่างดีทีเดียว เพราะสำหรับคนไม่เคยทำเลย บางครั้งการเริ่มต้นด้วยตัวเองทันทีก็ดูจะยากเอาการอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญเมื่อไปช่วยเริ่มแล้ว คุณปริญญาก็จะคอยแวะเวียนไปเยี่ยมเยียน ถามไถ่ และให้กำลังใจอยู่เสมอ ทำให้ตอนนี้มีแนวร่วมเกิดขึ้นในหมู่บ้านเพิ่มขึ้นหลายหลัง

ที่สำคัญ ล่าสุดเมื่อทางกรรมการหมู่บ้านเห็นความสำคัญ ก็ได้จัดกิจกรรมให้กลุ่มฟางสวรรค์ได้ไปแนะนำ “โครงการสวน+ครัวฟางสวรรค์” ให้กับสมาชิกในหมู่บ้านฟัง พร้อมทั้งสาธิตวิธีการปลูกผักต่างๆ อย่างวอเตอร์เครส และผักบุ้ง รวมถึงแจกอุปกรณ์ให้กลับไปลองปลูกกันดูด้วย งานนี้มีผู้สนใจไม่น้อยทีเดียว หลายท่านไม่เคยพบปะพูดคุยกันมาก่อน ก็มีโอกาสได้สานสัมพันธ์กันงานนี้

ที่น่าสนใจอีกประการของโครงการนี้คือ นอกจากจะส่งเสริมเรื่องการปลูกผักแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการสอนทำอาหารสุขภาพ โดยปรุงจากผลผลิตที่ได้จากสมาชิกควบคู่ไปด้วย แถมยังพยายามสอดแทรกแนวคิดเรื่องการพึ่งตนเองให้ผู้ที่เข้ามาร่วมในกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอ

 

ใครว่าการทำโครงการสวนผักกับวิถีคนเมืองเป็นเรื่องไกลเกินจริง เห็นทีจะต้องมาดูตัวอย่างโครงการสวน+ครัวฟางสวรรค์เสียแล้วล่ะ