“มันเริ่มจากเราเห็นต่างชาติตื่นเต้นกับข้าวพันธุ์พื้นบ้านสีดำ สีแดง ที่เราเอามาขายที่ร้านอาหารจังหวัดชุมพร ตอนนั้นขายราคากิโลละ 150-180 บาท แต่เขาก็ซื้อ แล้วก็เล่าให้ฟังว่า ถ้าจะกินอย่างนี้ในบ้านเขา สมมติข้าวทั่วไปมื้อนึง 5 เหรียญ ข้าวแบบนี้จะต้องจ่าย 15-20 เหรียญถึงจะได้กิน เราก็เฮ้ย ของที่มีในบ้านเรามันเป็นของดี มีมูลค่าในระดับสากลนะ
มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มั่นใจว่าข้าวของเราไปได้แน่ จากนั้นก็เริ่มลงมือร่วมพัฒนากับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ที่แม่ทำอยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้เน้นเป็นงานส่งเสริม ให้เกษตรกรในพื้นที่หันมาเลิกใช้สารเคมี ให้มาทำแบบเดียวกับพวกเรามากขึ้น เหมือนแสดงตัวอย่างให้เขาเห็นว่า ปลูกแบบนี้ ไม่ใช้สารเคมี เราจะมีการรับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาด ก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนหันมาสนใจมากขึ้น”
—อารยะฟาร์ม จ.ร้อยเอ็ด กล่าวถึงความมั่นใจในคุณภาพข้าวพื้นบ้านที่ทางกลุ่มอนุรักษ์สายพันธุ์กันอยู่ ณ ปัจจุบัน พร้อมเสนอว่าใน #เทศกาลข้าวใหม่65 จะมีข้าวหลากสายพันธุ์มาจำหน่าย อาทิ ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียวก่ำกาดำ ทับทิมชุมแพ รวมถึงพร้อมปรุงเมนูเด็ด ลาบเต้าหู้ คู่กับข้าวเหนียวก่ำหอมๆ มารอเสิร์ฟด้วย
.
.
เทศกาลข้าวใหม่65
วันที่ 15-16 มกราคม 2565
สถานที่: มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) ไทรม้า นนทบุรี
