Love Letter to the Earth : จดหมายรักถึงผืนดิน

มีโอกาสได้อ่านหนังสือ Love Letter to the Earth ที่เขียนโดยท่านติช นัท ฮันท์ แล้วรู้สึกซาบซึ้ง ตระหนักถึงมุมมองหลายอย่างที่เราไม่เคยนึกถึงเกี่ยวกับผืนดิน หรือพระแม่ธรณีของเรา จึงอยากขอนำเรื่องราวบางส่วนมาแบ่งปันให้อ่านกันค่ะ

ในหนังสือเล่มนี้ ท่านติช นัท ฮันท์ ได้อธิบายให้เราตระหนัก และเห็นถึงความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่างตัวเรากับพระแม่ธรณี หรือ Mother Earth  มากขึ้น  โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่มักจะมองตัวเองแยกขาดจากผืนดิน และมองผืนดินเป็นเพียงสิ่งแวดล้อมหนึ่ง ที่เราสามารถตักตวง หรือใช้ประโยชน์อย่างไรก็ได้ จนทุกวันนี้ผืนดินป่วย และนำพามาซึ่งความป่วยไข้ของผู้คน รวมถึงการเกิดภัยพิบัติต่างๆตามมามากมาย

 

 

ท่านได้เขียนจดหมายรักถึงผืนดินหรือพระแม่ธรณีหลายฉบับ แต่ละฉบับอ่านแล้วซาบซึ้ง และเปิดมุมมองให้เราเห็นว่าแท้จริงแล้วผืนดิน ผืนโลก ของเรานี้เป็นสิ่งมีชีวิต ที่เปรียบเสมือนแม่ผู้ให้กำเนิดของสรรพชีวิตต่างๆ และมีคุณสมบัติอันควรค่าแก่การเรียนรู้มากมาย มีอะไรบ้าง เรามาดูกันค่ะ

 

 

The Earth คือแม่ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ท่านกล่าวว่า หากเราพิจารณาอย่างลึกซึ้ง เราก็จะเห็นว่าผืนดินเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา เราถือกำเนิดขึ้นมาจากผืนดิน เช่นเดียวกับพ่อ แม่ บรรพบุรุษ ตลอดจนลูกหลานของเรา ก็ล้วนก่อกำเนิดมาจากผืนดินทั้งสิ้น อากาศที่เราหายใจเข้าไปก็เป็นของขวัญจากผืนดิน เช่นเดียวกับน้ำสะอาดที่เราดื่ม อาหารที่เรากิน และพืชสมุนไพรที่มาช่วยรักษาเรา ก็ล้วนมาจากผืนดินทั้งสิ้น ที่สำคัญคือ ไม่เพียงมนุษย์เท่านั้น ผืนดินยังให้กำเนิดสรรพชีวิตอื่นๆบนโลกนี้อีกมากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว ทุกที่ที่มีดิน น้ำ หิน อากาศ ก็ล้วนมีพระแม่ธรณีอยู่ตรงนั้น พระแม่ธรณีจึงเป็นมากกว่าสิ่งแวดล้อม แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีคุณค่า และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา

 

 

The Earth คือ ความงาม ความมหัศจรรย์ และความสร้างสรรค์ ท่านกล่าวว่า ในทุกๆเช้าที่เราตื่นขึ้นมา หากเราเปิดตาเปิดใจมอง เราจะพบเห็นความงามของธรรมชาติรอบตัวมากมาย ลูกของพระแม่ธรณี มีทั้งทะเลสาบ ต้นไม้ ดอกไม้ ก้อนเมฆ ภูเขา ป่าไม้ กวาง นก และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่ต่างก็มีความงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เป็นลูกที่แม่มีส่วนช่วยสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นมา แม่พระธรณียังเป็นนักคณิตศาสตร์ผู้มากความสามารถที่รังสรรค์ กิ่งก้านของซากุระ เปลือกหอยทาก หรือปีกคางคาว ได้อย่างน่าประทับใจ ยังไม่นับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ที่งดงามอย่างยากจะหาจิตรกรที่ไหนเทียบเคียงได้ หรือเสียงของสายน้ำที่ไหลริน ก็ยากจะหานักประพันธ์ดนตรีใดๆเทียบเคียงได้เช่นกัน

 

 

The Earth  คือ ความมั่นคง ความอดทน และความไม่แบ่งแยก ท่านกล่าวว่า แม้ว่าพวกเราจะทำผิดพลาดต่อพระแม่ธรณีมากเพียงใด แต่ท่านก็ยังคงให้อภัยเราเสมอ ทุกครั้งที่เรากลับไปเชื่อมโยงสัมผัสสัมพันธ์กับพระแม่ธรณี แม่คนนี้ก็จะพร้อมที่จะอ้าแขนโอบกอดพวกเราไว้ทุกครั้ง ยามใดที่เรารู้สึกหวั่นไหว ไม่มั่นคง เต็มไปด้วยความกลัว ความเกลียด ความเศร้า ความผิดหวัง เราก็สามารถกลับไปหาผืนดิน ให้ผืนดินช่วยโอบกอด และเยียวยา ทำให้เรารู้สึกสงบ มั่นคง มั่นใจ และฟื้นคืนความสดชื่นเบิกบานกลับคืนมาได้อีกครั้ง ด้วยความที่ผืนดินมีความสามารถที่จะแปรเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย รวมถึงพวกสารพิษ สิ่งสกปรกทั้งหลายที่ปนเปื้อน แม้ว่าจะใช้เวลานานหลายล้านปี แต่เวลาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า พระแม่ธรณีเป็นผู้ที่มีความอดทน และสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบาก และคืนสมดุลให้ตัวเองได้ในที่สุด อาจกล่าวได้ว่าผืนดินนี้ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการเยียวยา พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งให้เราได้เสมอ โดยไม่แบ่งแยกผู้ใดจริงๆ

The Earth  คือ ธรรมชาติที่สะท้อนให้เห็นถึงความจริงแท้ของชีวิตที่ไม่มีการเกิด การตาย หากย้อนเวลากลับไป The Earth ก็ถือกำเนิดมาจากฝุ่นผงของดวงดาว และแปรเปลี่ยนไปอยู่ในฟอร์มอื่นๆ ไม่มีสิ่งใดตายจากไป เช่นเดียวกับตัวเรา ที่กำเนิดมาจากพระแม่ธรณี และจะกลับคืนสู่พระแม่ธรณี และถือกำเนิดไปสู่ชีวิตใหม่อีกครั้ง ท่านติช นัท ฮันท์ กล่าวว่า การมองอย่างลึกซึ้งเช่นนี้ จะช่วยทำให้เราเข้าใจถึงความเป็นหนึ่งเดียว การไม่แบ่งแยกกันระหว่างสิ่งมีชีวิต กับสิ่งไม่มีชีวิต ไม่แบ่งแยกระหว่างการเกิด การตาย ความสุข ความทุกข์ ความดี ความเลว

ท่านติช นัท ฮันท์ เน้นย้ำให้เราตระหนักอยู่เสมอว่า การเข้าใจว่าตัวเองกับผืนดินหรือThe Earth ไม่ได้แยกขาดจากกัน และกลับมาสัมพันธ์ เชื่อมโยง ก้าวเดินแต่ละย่างก้าว และสัมผัสผืนดินด้วยความเคารพรักนี้ จะมีส่วนช่วยเยียวยาความทุกข์ ความเศร้า ความเจ็บไข้ได้ป่วยที่เรากำลังเผชิญกันอยู่ได้ อีกทั้งยังทำให้เราเข้าใจชีวิตและสรรพสิ่งต่างๆ และนำพาให้เรามีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สันติมากขึ้นด้วย

ดังนั้น การดูแลพระแม่ธรณี แท้จริงแล้วก็คือการกลับมาดูแลชีวิตของตัวเราเอง และการที่เราจะดูแลพระแม่ธรณีได้ ก็คือการที่เรากลับมามีสติในแต่ละขณะของชีวิต ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน กิน หรือทำสิ่งใด ขอให้ทำอย่างมีสติ ด้วยความเคารพ รัก มองเห็นความเชื่อมโยง และรู้สึกสำนึกรู้คุณสิ่งต่างๆ ที่ให้กำเนิด หล่อเลี้ยง และเกื้อกูลชีวิตเราให้เติบโตมาทุกวันนี้

ในหนังสือเล่มนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งเนื้อหาที่ทำให้เราเข้าใจชีวิต เข้าใจผืนดิน ผืนโลก วิธีการต่างๆที่เราจะมีส่วนช่วยโลกนี้ได้ รวมไปถึงเนื้อหาในจดหมายรัก ที่ช่วยสร้างพลังความรัก ความเข้าใจ สร้างสายใย และสร้างพลังความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะก้าวเดินไปบนผืนดิน ผืนโลกนี้ด้วยความเคารพรัก และดูแลเอาใจใส่พระแม่ธรณี ผู้ให้กำเนิดชีวิตเราต่อไป

ใครสนใจลองไปหาอ่านกันได้นะคะ

 

ขอบคุณรูปภาพจาก https://oneearthsangha.org/articles/in-love-with-the-earth/

https://www.amazon.com/Love-Letter-Earth-Thich-Nhat/dp/1937006387